ลั่นหมีขอต้องไม่ตายฟรี
หลักฐานแน่น
‘ศรีวราห์’มั่นใจผิดชัด
พญาเสือเผยพบซาก3ชิ้น
หนัก4.3กก.ซุกในถุงปุ๋ย
เร่งตามจับกะเหรี่ยงอีก1
ทีมพญาเสือเผยพบซากหมีขอ 3 ชิ้นหนัก 4.3 กก.ใส่ถุงปุ๋ย ซ่อนริมถนนในป่า ด้าน “ตาต้า” ซัด“อส.ออย” กับพวกอ้างเป็นตำรวจบังคับให้ยิง ขณะที่“ศรีวราห์” ลั่น “หมีขอต้องไม่ตายฟรี” ระบุ หลักฐานพยานครบ เอาผิดได้ทั้งหมด พร้อมติดตามจับกุมกะเหรี่ยงที่ยังหลบหนีอีก 1 คน
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เพจเฟซบุ๊คทีมพญาเสือ ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อความว่า อุทยานแห่งชาติไทรโยค สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รายงานความคืบหน้า กรณี อช.ไทรโยค ตรวจยึด/จับกุม นายวัชรชัย สมีรักษ์ กับพวก ร่วมกันล่าสัตว์ป่า มีดังนี้ วันที่ 10ตุลาคม2561 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาหลักฐานและวัตถุพยานในคดีเพิ่มเติม จำนวน3จุด บริเวณพิกัด ป่าเขาพลู หมู่ที่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายในป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย และภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ปรากฏผลการตรวจสอบ ดังนี้ จุดที่ 1 พบย่าม (กระสอบปุ๋ย) ซุกซ่อนอยู่ข้างขอนไม้ถนนฝั่งขวา (มุ่งหน้าไปทางหน่วย ทย.6 ) ห่างจากถนน 2.85 เมตร และห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.1 กิโลเมตร พบหลักฐานและวัตถุพยานภายในย่ามจำนวน 3 รายการ คือ 1.ซากสัตว์ป่า กบทูด หรือ เขียดแลว (Limnonectes blythii หรือ Rana blythii) จำนวน 4 ตัว 2.ซากสัตว์ป่า หมีขอ หรือ บินตุรง (Arctictis binturong) จำนวน 3 ชิ้น น้ำหนัก 4.3 กก. 3.ดิน บริเวณที่พบถุงย่ามใส่ซากสัตว์ป่า จำนวน 3 ถุง
จุดที่ 2 พบหลักฐานและพยานวัตถุ จำนวน 2 รายการ คือ 1.ลูกกระสุนปืน จำนวน ๑ ลูก ภายในลำต้นไผ่ หลังศาลเจ้าพ่อเขาพลู 2.ปลอกกระสุนปืน ขนาด .223 นิ้ว (5.56 มิลลิเมตร) จำนวน 2 ปลอก บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเขาพลู จุดที่ 3 บริเวณที่ นายตาตา (ผู้ต้องหา) แจ้งว่าเป็นจุดยิงและล่าสัตว์ป่า (หมีขอ) บนต้นไทร ด้วยอาวุธปืนลูกกรด ห่างจากป้ายทางเข้าสำนักสงฆ์เต่าดำ 30 เมตร และห่างจากจุดที่นายวัชรชัยและพวกตั้งแคมป์ 300 เมตร พบปลอกกระสุนปืน ขนาด .22 นิ้ว จำนวน 1 ปลอก คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ที่ร่วมกระทำผิดจำนวน 2 คน ดังนี้ 1.นายตาต้า (ชาวพม่า) รับสารภาพว่าเป็นคนยิงหมีขอ 2.นายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ และออกหมายจับ นายจีระ(ชาวพม่า) และภรรยา เพื่อดำเนินคดีต่อไป
วันเดียวกัน เวลา 11.30น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พนักงานสอบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไทรโยค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุมและดำเนินคดี นายวัชรชัย สมีรักษ์ อดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย กับพวก ผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายหลัง นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย หนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอด ชาวกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา 2 คน ประกอบด้วยนายจิระ และ นายตาต้า จนสามารถติดตามตัว นายตาต้ามาสอบปากคำพร้อมออกหมายจับได้ในที่สุด ก่อนพนักงานสอบสวนจะพาตัวนายตาต้า และนายอนุสรณ์เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่กรุงเทพฯ เพื่อขยายผลในคดีดังกล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวภายหลังการสอบปากคำว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายตาต้าให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิงหมีขอตกลงมาจากต้นไม้จริง โดยวันที่เกิดเหตุมีชาย 2 คนในทีมปลัด คือ อส.ออย และ นายสกานต์ แก่งหลวง อส.อีกคน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ และบังคับให้นายตาต้าเป็นคนยิง ซึ่งนายตาต้าเกิดความกลัวเพราะเป็นคนต่างด้าว จึงต้องยอมทำตาม จากนั้นนำไปที่จุดชำแหละ โดยมีนายจีระ สัญชาติเมียนมา กับภรรยา เป็นคนชำแหละ จากนั้น อส.ออย เป็นผู้นำซากสัตว์ไปทิ้งลงน้ำบริเวณลำห้วย ทำให้ขณะนี้มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 14 ราย จับกุมตัวได้แล้ว 13 ราย เหลืออีก 1 รายที่ยังต้องติดตามตัวคือ นายจีระ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเด็กที่มากับคณะผู้ต้องหา ที่เป็นผู้นำปืนจากผู้ต้องหากลับมาไว้ที่บ้านนั้น ตามกฎหมาย ป.วิอาญา ไม่สามารถดำเนินคดีกับเด็กได้ แต่กระบวนการสอบสวนสอบปากคำจะต้องดำเนินต่อไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้พยานหลักฐานเกือบครบถ้วนแล้ว มีวัตถุพยานทั้งหมด 15 รายการ รวมถึงปลอกกระสุนปืน และซากสัตว์ และได้สั่งให้ไปหาศีรษะหมีขอที่นายตาต้า อ้างว่านายจีระ นำไปทิ้งในลำห้วย ส่วนบริเวณกรามของหมีขอได้โยนให้สุนัขที่สำนักสงฆ์ฯ กิน และให้หาคราบเลือดของหมีขอในจุดเกิดเหตุ แต่ก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา อาจจะทำให้คราบเลือดหายไป และขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจดีเอ็นเอจากซากสัตว์ป่า ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่
“คดีนี้พนักงานสอบสวนและอัยการจะสามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ทุกคน ทุกข้อหา ยกเว้นนายจีระ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนการที่นายตาต้ารับสารภาพว่าเป็นผู้ยิง จะทำให้ผู้ต้องหารายอื่นๆ รับโทษน้อยลงหรือไม่นั้น ตอบไม่ได้ เป็นดุลยพินิจของศาล และยืนยันว่าหมีขอจะไม่ตายฟรี เนื่องจากมีพยานวัตถุ พยานบุคคล ครบถ้วน สามารถทำให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหามีการกระทำความผิดจริง มั่นใจจะเอาผิดได้ทุกคน ทุกข้อหา” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมในประเด็นที่สังคมสังสัยว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชี้เป้าให้กลุ่มผู้ต้องหายิงหมีขอหรือไม่ และจะสอบสวนว่ามีเจตนาเข้ามายิงหมีขอแต่แรกหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา รวมถึงร้านค้าที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารภายในอุทยาน
สำหรับข้อหาที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ได้แก่ 1.ร่วมกันเก็บหา นำออกไป ทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ ยางไม้ น้ำมันยาง นำมันสน แร่ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ 2.ร่วมกันนำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ 3.ร่วมกันล่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งมิได้เป็นการกระทำโดยทางราชการ ที่ได้รับการยกเว้นฯ4.ร่วมกันมีไว้ ครอบครอง ซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต 5.ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยการกระทำความผิด 6.ร่วมกันเก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ 7.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี