12 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมวัฒนโกเมร ศาลากลางจังหวัดสตูล คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กกร.)จังหวัดสตูล โดยนายอาณัติ โชติพัฒนกิต ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดสตูล /ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสตูล พร้อมด้วย ดร.พิทักษ์สิทธิ์ ชีวรัฐพัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล นายประชา คืนตัก ประธานชมรมธนาคารจังหวัดสตูล เข้ายื่นหนังสือให้กับ นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ถึงนายกฯรัฐมนตรี เรื่อง “ขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาขาดแคลนหินก่อสร้างของจังหวัดสตูลอย่างเร่งด่วน”
โดยข้อความในหนังสือ ระบุ ว่า “ตามที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดทุ่งนุ้ยศิลาทอง โดยนายลำพูน กองศาสนะ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน ซึ่งประทานบัตรสิ้นอายุเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2561 ที่ผ่านมา จนขณะนี้การต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ยังไม่แล้วเสร็จ
จากเหตุข้างต้นได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ในการดำรงชีวิตของประชาชนจังหวัดสตูลและจังหวัดใกล้เคียงสงขลา พัทลุง สืบเนื่องจากรายได้หลักของชาวสตูล ที่เคยมาจากอาชีพประมง ยางพารา และปาล์ม ปัจจุบันรายได้จากอาชีพดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่ทั้งนี้เป็นความโชคดีของชาวสตูลที่ภาครัฐได้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดรายได้จากการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานในจังหวัด เพื่อรองรับการท่องเที่ยว จากการที่จังหวัดสตูลได้รับเลือกเป็นอุทยานธรณีโลกซึ่งคาดว่าจะเป็นรายได้ของประชาชนจังหวัดสตูลอีกครั้งหนึ่ง
หิน เป็นวัตถุดิบขั้นต้นของงานอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งหมด มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด แต่ขณะนี้จังหวัดสตูลไม่มีหินใช้ จากการที่โรงโม่ไม่สามารถดำเนินการต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ให้แล้วเสร็จได้ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน จังหวัดสตูล ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้โปรดช่วยพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน”
ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับเห็นว่าจังหวัดสตูลขาดแคลนหินเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม โอกาสนี้จะนำหนังสือส่งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาตามแนวเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
ด้านนายอาณัติ โชติพัฒนกิต ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กกร.) จังหวัดสตูล กล่าวว่า ความเดือนร้อนของชาวสตูล เราไม่มีหินที่ใช้ทำการก่อสร้าง คือ แยกออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนการยื่นขอประทานบัตรนั้น ทางผู้ประกอบโรงโม่หินได้ดำเนินการไปแล้ว ในส่วนของข้อกฎหมายนั้นทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ได้นำเสนอผ่านการประชุม กอร. และความมั่นคงของจังหวัด สำหรับเหตุผลที่มายื่นหนังสือในครั้งนี้นั้น เพราะหนังสือที่ยื่นขอต่อประทานบัตรยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้การย่อยหินหรือการโม่หินไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งโรงโม่หินทุ่งนุ้ยเป็นโรงโม่หินหลักที่จ่ายวัตถุดิบให้กับ 3 จังหวัด สตูล สงขลา และพัทลุงบางส่วน เพราะฉะนั้นเมื่อโรงโม่หินไม่สามารถดำเนินการได้ จังหวัดสตูลก็ไม่มีวัตถุดิบที่จะทำอุตสาหกรรมก่อสร้าง ก็จะกระทบไปถึงการพัฒนาสาธารณูปโภค การก่อสร้างต่างๆ การจ้างงาน อุตสาหกรรมหินที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมด ตอนนี้ก็ชะงัดทั้งระบบ ทั้งนี้ในส่วนของต้นทุน หากจะนำหินมาจากต่างจังหวัด ต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้นมาเกือบ 2 เท่า อันนี้ในระยะยาวจะเป็นปัญหาต่อเนื่องกับพี่น้องจังหวัดสตูลทั้งระบบเลย
นางสาวมาลี ทองเกลี้ยง อุตสาหกรรมจังหวัดสตูล กล่าวว่า ผู้ยื่นขอประทานบัตรเขาขอขยายพื้นที่จากเดิม โดยเนื้อที่เพิ่มที่ขอเพิ่มติดพื้นที่ป่า พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1บี ซึ่งต้องเข้ามติ ครม. ที่จะอนุมัติหรือไม่ เรื่องจึงล่าช้าออกไป ทั้งนี้หากมีการขอใช้พื้นที่เดิมก็สามารถดำเนินการต่อได้เลยตามระเบียบขั้นตอนของการยื่นขอประทานบัตรของกระทรวงอุตสาหกรรมได้เลย ในส่วนที่รับเรื่องในครั้งนี้ก็จะส่งไปที่กรมเหมืองแร่ กรมเหมืองแร่ก็จะมีเจ้าหน้าที่พิจารณาตรงนี้ กลั่นกรองแล้วเสนอในขั้นตอนต่อไป สำหรับพื้นที่เดิม 197 ไร่ 2 งาน ขอขยายเพิ่มอีก 67 ไร่ 2 งาน รวมพื้นที่ทั้งหมด 265 ไร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี