"บุญรักษ์"เผยโรงเรียนเตรียมอุดมฯ สอบ ม.4 ก่อน เพียงแห่งเดียว เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กเก่งเรียนดีทุกคน จ่อชงไม่เก็บค่าสมัครสอบเด็กยากจนที่ครอบครัวได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ย้ำเด็กที่สอบติดแล้วต้องไม่ไปสอบที่อื่นอีก ย้ำช่วงเวลาสอบไม่ห่างจากโรงเรียนดังอื่นๆ
12 ต.ค.61 นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการเข้าพบ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ว่า ได้รายงานผลการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ที่ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์การรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2562 ที่ให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษา (ม.) ปีที่ 4 ก่อนโรงเรียนอื่น โดยนโยบายของ รมว.ศึกษาธิการ อยากให้โอกาสเด็กที่เรียนเก่ง แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนได้มีโอกาสมาสอบคัดเลือกที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาด้วย เพราะฉะนั้น สพฐ.จะประสานไปยังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ว่า ขอให้ยกเว้นค่าสมัครสอบให้แก่เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเดิมของเด็กเซ็นรับรองว่า ครอบครัวเด็กมีฐานะยากจน และให้โรงเรียนสนับสนุนค่าใช้จ่ายเด็กกลุ่มนี้เป็นค่าเดินทางมาสอบ ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและให้โอกาสเด็กยากจน ขณะที่เด็กทั่วไปที่อยากสมัครสอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมฯก็สามารถมาสมัครเข้าสอบได้
"ที่มองว่าการให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สอบก่อนเพียงแห่งเดียว จะทำให้มีเงินสะพัดนั้น เท่าที่ผมรับฟังไม่มีใครติดใจเรื่องนี้ ส่วนเรื่องเวลาการจัดสอบของโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ก็จะไม่ห่างจากการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงอื่นๆมากนัก และเด็กที่สอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมฯได้แล้ว ก็จะไม่มีสิทธิไปสอบเข้าเรียนที่อื่นอีก ซึ่งตอนนี้ สพฐ. อยู่ระหว่างการจัดทำปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562 โดยจะพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด รวมถึงจะจัดทำแนวปฏิบัติที่ชัดเจน" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการขยายจำนวนการรับเด็กต่อห้อง ในระดับชั้น ม.1 และ ม.4 จากเดิมกำหนด ให้รับนักเรียนได้ห้องละ 40 คน ก็เปิดโอกาสให้ขยายได้ ไม่เกิน 45 คนต่อห้อง โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียน เพื่อให้สถานศึกษามีอำนาจอนุมัติเบ็ดเสร็จภายในสถานศึกษาเองนั้น รมว.ศึกษาธิการ ก็ไม่ได้ติดใจเช่นกัน และมีนโยบายให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ตัดสินใจอยู่แล้ว เพราะถือว่ารู้หน้างาน ซึ่งโรงเรียนเองก็รู้ว่าตนเองมีศักยภาพเพียงใด แต่หากจะเสนอให้ สพฐ.เป็นผู้พิจารณาก็ต้องเป็นกรณีพิเศษจริงๆ
"ส่วนเรื่องการขยับเวลารับนักเรียนให้เร็วขึ้นเป็นแนวคิดของคณะกรรมการ กพฐ.ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าจะต้องดำเนินการในปีการศึกษา 2562 เพียงแต่มอบให้ สพฐ.มาคิดว่าถ้าจะขยับเวลาการรับนักเรียนก็ให้แล้วเสร็จเร็วขึ้นในปีต่อๆไป จะเป็นไปได้หรือไม่ หรือว่าจะมีผลกระทบใดหรือไม่ ซึ่ง สพฐ.ก็ต้องมาคิดว่าจะทำให้เร็วขึ้นได้แค่ไหน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ว่าคิดเห็นอย่างไร เนื้อหาที่จะสอบถ้าเร็วขึ้นอีก 2 เดือน เด็กกำลังเรียนถึงไหน และจะสอบอย่างไร เพราะฉะนั้น ซึ่งการขยับเร็วขึ้นทุกฝ่ายต้องเห็นว่าเป็นประโยชน์ถึงจะขยับ" นายบุญรักษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี