จากกรณีกรณี นายพิเชษฐ์ กลิ่นโอชา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/13 หมู่ 6 ต.เชียวเหลียง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง , นายกฤษฏา เกตุนุ้ย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/1 หมู่ 7 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร และ นายนราธิป เพิ่มลาภ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/47 หมู่ 3 ต.บ้านบ่อ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาคดีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า-ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ชิงรถยนต์ควบคุมตัวผู้ต้องหาของเรือนจำจังหวัดหลังสวน เป็นรถยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ฮฐ 1666 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไปทั้งโซ่ตรวน จำนวน 3 คน แล้วนำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ในสวนปาล์มใกล้เชิงเขาท่าทาง บ้านห้วยคล้า หมู่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เจ้าหน้ายังระดมกำลังตำรวจ , ทหาร , ตชด.และฝ่ายปกครอง กว่า 300 นาย ไล่ล่าปิดล้อมพื้นที่ตลอดทั้งคืนทั้งวันไม่พบตัว
ความคืบหน้าตั้งแต่เวลา 07.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.61) ที่กองอำนวยการที่ทำการบ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.ตะโก พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลป์ชัย ผบก.ภ.จ.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร , พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร , พ.ต.อ.ไกรสรี สุวรรณงาม ผกก.สภ.ทุ่งตะโก , พ.ต.สังคม รองมาลี ผบ.ชป.1 มว.รส.บก.ควบคุม มทบ.44 ได้เดินทางบัญชาการร่วมกับ พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ในฐานประธานเขต 8 , นายบุญญรักษ์ บุญญาธิการ ผบ.เรือนจำจังหวัดหลังสวน โดยมีการเสริมกำลังสนับสนุนทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เรือนจำอีกกว่า 100 นาย พร้อมสุนักดมกลิ่น 4 ตัว เดินเท้าปูพรมรอบบริเวณพื้นที่เขาท่าทองบ้านห้วยคล้า ที่คาดว่าคนร้ายยังกบดานอยู่บนภูเขารวมพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ และเฮลิคอปเตอร์จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สนับสนุนทางอากาศ
โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกนายพร้อมอาวุธครบมือและตรวจสอบพื้นที่ด้วยความระมัดระวังขั้นสูงสุด และยิงคนร้ายได้ทันทีอาจมีการต่อสู้เจ้าพนักงาน เนื่องจากมีรายงานว่าหลังตรวจสอบรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหาเรือนจำที่ใช้หลบหนีแล้วนำมาจอดทั้งในสวนปาล์มพื้นที่เชิงเขาท่าทองบ้านห้วยคล้าหมู่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก ปรากฏว่า 1 ใน 3 คนร้าย ได้เปลี่ยนเสื้อผู้ต้องหาทิ้งไว้ในรถ 1 ตัว ได้นำโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และปืนลูกซอง 5 นัด 1 กระบอก พร้อมกระสุนเต็มรังเพลิงของผู้คุมที่เก็บไว้ในรถพาหลบหนีไปด้วย
นอกจากนั้น ล่าสุดผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้ง 3 คน ศาลจังหวัดหลังสวนได้อนุมัติหมายจับ 3 ข้อหาหนัก ตามหมายจับเลขที่ 135 , 136 , 137/2561 ฐานเป็นผู้ต้องขังตามอำนาจของศาลหลบหนีการควบคุมโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป , ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานตามกฎหมาย โดยใช้กำลังประทุษร้ายและขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย , ร่วมกันปล้นทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังและให้นำสุนัขดมกลิ่นเสื้อของ 1 ใน 3 คนร้าย ที่ทิ้งไว้ในรถยนต์เรือนจำก่อนหลบหนี โดยเข้าไปตรวจสอบที่บริเวณบ้านร้างหลังหนึ่งในสวนปาล์ม ห่างจากกองบัญชาการร่วมที่ทำการผู้ใหญ่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร สุนัขได้พบกลิ่นและร่องรอยคนร้ายยังวนเวียนอยู่ในสวนปาล์มและในป่าเชิงเขา โดยเดินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของภูเขา เจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามแต่ก็ยังไม่พบตัวคนร้ายทั้ง 3 คน แต่อย่างใด
พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลป์ชัย ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่า หลังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก่อเหตุดังกล่าวได้ขับรถเรือนจำหลบหนีและก่อนถึงตลาดอวยชัย 3 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน ห่างจากศาลจังหวัดหลังสวน ประมาณ 5 กิโลเมตร 1 ใน 3 คนร้ายชื่อ นายนราธิป เพิ่มลาภ อายุ 26 ปี ได้มีชาวบ้านเห็นและยืนยันว่าคนร้ายได้กระโดดลงจากรถ 1 คน ซึ่งทราบว่าบ้านภรรยาของผู้ต้องหารายนี้อยู่บริเวณนั้นด้วย จาการตรวจสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบพบว่า มีร่องรอยการหลบหนีอยู่พื้นที่ดังกล่าวจริง จึงได้ส่งกำลังไปปิดล้อมพื้นที่ไว้แล้ว ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่เขาท่าทองบ้านห้วยคล้า แต่เนื่องจากเป็นภูเขาป่าทึบ มีเนื้อที่มากกว่า 1,500 ไร่ และได้ใช่เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจวนอยู่นาน 45 นาที ยากแก่การมองเห็น เพราะเป็นป่ารกทึบมาก แต่อย่างไรก็ตาม จะพยายามอย่างเต็มที่ในการไล่ล่าจับกุมให้ได้โดยเร็ว
ด้าน พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชในฐานประธานเขต 8 กล่าวว่า สำหรับอาวุธปืนที่เบื้องต้นมีรายงานว่าคนร้ายได้นำอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ของผู้คุมไปด้วยนั้น ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดหลังสวน แล้วว่า คนร้ายไม่ได้นำเอาอาวุธปืนดังกล่าวหลบหนีไปด้วยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2561 พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร โดยได้ร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และหน่วยงานของกรมราชทัณฑ์ โดยสรุปใจความได้ว่า ได้ลงพื้นที่วางแผน แนะแนวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก และบริเวณในการตรวจสอบการขยายการตรวจสอบในพื้นที่ให้มากและเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยขณะนี้มีกำลังพลที่ร่วมปฏิบัติงานกว่า 150 นาย ตรวจเข้มและตั้งด่านสกัดรอบพื้นที่เขาท่าทอง ต.ตะโก
อย่างไรก็ตาม คาดว่านักโทษทั้ง 2 ราย ยังคงหลบซ่อนอยู่บริเวณเชิงเขา เนื่องจากบริเวณที่เป็นภูเขาถ้าทองนั้นส่วนใหญ่เป็นหินแหลมและเป็นพื้นที่สูงชัน ถ้าไม่ได้ใส่รองเท้าจะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ คงหลบอยู่ในบริเวณที่เป็นป่าทึบ ในส่วนของการวางแผนนั้น นายวัตสิน ทองยวน ผู้หลบหนีที่ถูกประตูทับ นั้น เป็นคนที่คิดแผนการ แต่เกิดอุบัติเหตุก่อน ส่วน นายฤทิชัย แก้วยรัม นั้น ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ และ 1 ใน 3 คนร้าย ชื่อ นายนราธิป เพิ่มลาภ อายุ 26 ปี ได้มีชาวบ้านเห็นและยืนยันว่าคนร้ายได้กระโดดลงจากรถ 1 คน ซึ่งทราบว่าบ้านภรรยาของผู้ต้องหารายนี้อยู่บริเวณนั้นด้วย
จากการตรวจสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบพบว่า มีร่องรอยการหลบหนีอยู่พื้นที่ดังกล่าวจริง จึงได้ส่งกำลังไปปิดล้อมพื้นที่ไว้แล้ว ส่วน นายพิเชษฐ์ กลิ่นโอชา และนายกฤษฏา เกตุนุ้ย 2 คนร้าย ซึ่งขณะนี้คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่เขาท่าทองบ้านห้วยคล้า แต่เนื่องจากเป็นภูเขาป่าทึบมีเนื้อที่มากกว่า 1,500 ไร่ และได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจวนอยู่นาน 45 นาที ยากแก่การมองเห็น เพราะเป็นป่ารกทึบมาก แต่อย่างไรก็ตาม จะพยายามอย่างเต็มที่ในการไล่ล่าจับกุมให้ได้โดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี