รมว.เกษตรฯแอ่นอกรับ ข้อบกพร่อง กราบขอโทษ ปชช.ดันร่างกฎหมาย ป้องกันทารุณสัตว์เข้าครม.โดยไม่ได้ชี้แจง ทำสังคมปั่นป่วน ปมค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง–ค่าปรับเร่งหารือ กฤษฎีกา หาช่องยกเว้นค่าใช้จ่ายเหมือนตีทะเบียนปืนเถื่อน จำแนกกลุ่มคนเลี้ยง
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์(ฉบับที่....)พ.ศ....ประเด็นเก็บค่าขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงตัวละ 450 บาท และอัตราค่าปรับ25,000บาทที่ไม่นำมาขึ้นทะเบียนจนทำให้มีกระแสคัดค้านกว้างขวางว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังไม่มีผลบังคับใช้ อยู่ในขั้นพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)พิจารณาอีก 3วาระ
“เรื่องนี้ยอมรับว่าเป็นจุดบกพร่อง ผมกราบขอโทษไว้ณ โอกาสนี้ เพราะอาจเร็วไปไม่ได้ชี้แจงประชาชน ในฐานะกระทรวงเกษตรฯเป็นเจ้าของร่าง โดยหลักการกฎหมายนี้ ต้องการจัดระเบียบดูแลสวัสดิภาพสัตว์ ซึ่งในร่างนี้การขึ้นทะเบียน ค่าปรับ ต่างๆยังไม่ชัดเจน”รมว.เกษตรฯ ย้ำ
และว่าตนได้อธิบายที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 ตุลาคม นายกฯเห็นว่าหลักการร่างกฎหมายนั้น เป็นประโยชน์ แต่มีรายละเอียดบางประเด็นเช่นการขึ้นทะเบียนและทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและค่าปรับ ที่อาจเป็นภาระแก่ประชาชน จึงมีมติให้กระทรวงเกษตรฯนำกลับไปทบทวน ปรับแก้เรื่องการขึ้นทะเบียนไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน แล้วเสนอเข้า ครม.อีกครั้ง
รมว.เกษตรฯยังระบุว่าไม่คิดว่าจะมีคนสนใจกันมาก เพราะก่อนเสนอ ครม.กรมปศุสัตว์เผยแพร่ร่างกฎหมายนี้ในเว็บไซต์ 1เดือน แต่ไม่มีคนสนใจ พอเข้า ครม.มีคนมาออกความเห็นมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องดี ที่เราประสบความสำเร็จทำให้คนมาสนใจ หลังหารือกฤษฎีกา นำร่างเข้าสภา ตนเสนอให้ตั้งตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงทั้งสมาคม ชมรม มูลนิธิ ภาคประชาชน มาร่วมให้ความเห็นด้วย
ส่วนกรณีประชาชนกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนนั้น นายกฤษฎากล่าวว่า ตนรับไปดูเรื่อง ยกเว้นไม่เก็บค่าธรรมเนียม เช่นเดียวกับการประกาศให้นำปืนมาขึ้นทะเบียนปืน โดยยกเว้นช่วงแรกเปิดให้ชาวบ้านให้นำปืนเถื่อนมามอบให้เจ้าหน้าที่ไม่มีความผิด ไม่มีค่าธรรมเนียม โดยกำหนดระยะเวลากี่วัน ซึ่งกำลังหารือกฤษฎีการวมถึงแนวคิดจำแนกผู้เลี้ยงสัตว์ออกเป็น 3 กลุ่มคือ องค์กร มูลนิธิ วัดที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม ประชาชนที่เลี้ยงทั่วไปและเลี้ยงเพื่อการค้ารวมถึงกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงในครอบครัวควรมีกี่ตัวที่สามารถดูแลได้หรือเลี้ยงเกินกี่ตัวต้องเสียค่าธรรมเนียม
ทั้งนี้นายกฤษฎายืนยัน จะเดินหน้าในแนวทางเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วนและมีความเหมาะสมการดูแลสวัสดิภาพสัตว์จะไม่ปล่อยให้ล่าช้า พยายามให้ทันในรัฐบาลนี้
ในประเด็นนี้ยังมีความเห็นจากหลายภาคส่วนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ป้องกันทารุณกรรมสัตว์ฯที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม มีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้านโดยน.สพ.ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นว่า กฎหมายฉบับนี้ออกมาเพื่อคน ไม่ใช่เพื่อสัตว์เป็นการออกแบบและวางแนวทางแก้ปัญหาจัดระเบียบสัตว์เลี้ยง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการขึ้นทะเบียนเป็นการแสดงความรับผิดชอบ เมื่อคิดจะเลี้ยง ก็ต้องเรียนรู้การใช้กฎหมาย มาแก้ปัญหาทำร้ายสัตว์ หรือฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าถูกต้องแล้ว เป็นเครื่องมือปลูกฝังความรับผิดชอบ ทำให้คนฉุกคิดก่อนเลี้ยงสัตว์
ด้านนางผ่องฤดี ราศี หรือ ป้าแอ๊ด อายุ 65 ปี ผู้ใจบุญเลี้ยงดูสุนัขและแมวจรจัด 400ตัวที่ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว ทำให้คนเลี้ยงมีความรับผิดชอบ ลดปัญหานำสุนัขแมวไปปล่อย แต่กฎหมายนี้อาจกระทบคนมีรายได้น้อย มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการจ่ายค่าขึ้นทะเบียนตัวละ 450บาท เป็นไปได้ราคาที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่100-150 บาท อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทุนหรือจัดทำหมันไว้ด้วย ช่วยลดภาระชาวบ้านและสังคม และเชื่อว่าหากร่างกฎหมายประกาศใช้จริงจะมีคนนำสุนัขแมวมาปล่อยทิ้งอีกมาก
เช่นเดียวกับ นางผ่องพรรณ ตรีประลำ อายุ 59 ปีหรือ ป้าแมว ชาวบ้านผู้ใจบุญอีกคนที่เลี้ยงสุนัขและแมวจร 50 ตัว หลังสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.หาดใหญ่ แห่งที่ 2 จ.สงขลา กล่าวไม่เห็นด้วย อยากเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการขึ้นทะเบียนสุนัขและแมวไปเลย ไม่ใช่แค่ทบทวนเพราะกลุ่มคนเก็บสุนัขและแมวจรจัดมาเลี้ยงไว้จำนวนมาก ไม่มีทางจะหาเงินมาจ่ายค่าขึ้นทะเบียนได้ ควรใช้แนวทางอื่นแทน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี