เมียเสี่ยปั๊มจำหน้า“พันศักดิ์”ได้แม่น แฉสุดเหี้ยม กำพระแล้วยกมือไหว้ร้องขอชีวิตก็ยังไม่ยอมละเว้น กระหน่ำยิง 4 นัดต้องแกล้งตายจึงรอดชีวิต ลูกสาวลั่นไม่ยอมให้อภัย ไม่ต้องมาขอขมา
ความคืบหน้าหลังจากที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัว นายพันศักดิ์ หรือ พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ อายุ 62 ปี พร้อมด้วย นางธนพร สุขโขจัย ภรรยา ผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุยิง นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง เสียชีวิต และ นางปาริดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยนายพันศักดิ์ อ้างว่าเป็นแค่คนรับงาน และจัดหาอาวุธปืน นำไปส่งให้บุคคลอีก 2 คนทำหน้าที่ลั่นไกนั้น
เมื่อเวลา 03.00 วันที่ 13 ตุลาคม พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 และ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อสอบสวนนายพันศักดิ์อีกครั้ง แต่นายพันศักดิ์ให้การเช่นเคยว่า เป็นแค่คนรับงาน ไม่ได้เป็นผู้ลั่นไกสังหารนายประชา ผู้ที่ลงมือคือชาวกัมพูชา 2 คน ทั้งนี้ นายพันศักดิ์และภรรยาถูกสอบสวนตลอดคืนอย่างเคร่งเครียด โดยนายพันศักดิ์มีอาการอิดโรย ใบหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับได้แยกตัวนางธนพร ขึ้นรถตู้นำตัวไปแยกขังคนละโรงพัก
ต่อมา เวลา 09.30 น. นางปาริดา ภรรยานายประชา หลังถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมด้วย น.ส.ปัทมาภรณ์ อายุ 30 ปี ลูกสาว และ น.ส.ดารณี ศรีสุวรรณ และญาติๆ รวมประมาณ 10 คน เดินทางมาที่ สภ.เมืองสระแก้ว โดย น.ส.ปัทมาภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ทางตำรวจเชิญแม่ที่ยังบาดเจ็บอยู่แต่สามารถเดินทางมาโรงพักได้ ให้มาชี้ตัวนายพันศักดิ์ เพราะแม่เห็นหน้านายพันศักดิ์ ชัดเจนตอนลงมือยิง โดยนายพันศักดิ์ คลุมหน้ามาแต่พ่อกับแม่บอกให้ถอดหมวกคลุม นายพันศักดิ์ จึงถอดออกแล้วก็ควักปืนออกมาจ่อยิงระยะเผาขน จนพ่อเสียชีวิตและแม่ถูกยิง 4 นัดแต่แม่แกล้งตายซึ่งแม่จำหน้าคนร้ายได้อย่างแม่นยำ
“ก่อนหน้าที่พ่อกับแม่จะถูกยิง แม่ได้ฝันว่ามีคนร้ายมาปล้นบ้านแล้วใช้ปืนยิงคนในบ้านเอาทรัพย์สินไปจึงได้เล่าความฝันให้พ่อฟังตอนเที่ยงคืนตรงจุดที่ถูกยิงภายในบ้านแล้วก็เล่าให้ญาติๆฟังด้วย จากนั้นแม่ก็นำพระผงของครูบาบุญชุ่มมาพกติดตัวไว้แล้วก็เข้านอนพอตอนเช้ามืดก็ถูกยิงขณะเปิดปั้ม โดยที่แม่ได้นำเหรียญครูบาบุญชุ่มมาพกไว้ตอนถูกนายพันศักดิ์จ่อยิงมือก็ได้กำพระไว้และยกมือขึ้นยอมร้องขอนายพันศักดิ์ ว่าอย่ายิงจนพระหลุดออกจากมือตกไปที่พื้นแล้วก็ถูกยิงซ้ำฟุบลงไปตรงพระหล่นบนพื้นบ้าน” น.ส.ปัทมาภรณ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามแม้ว่าคนร้ายจะถูกจับกุมได้ แต่ก็ยังรู้สึกโกรธแค้น ซึ่งตนและญาติไม่ยอมให้อภัยและไม่ต้องมาขอขมา ขอให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
สำหรับส่วนเรื่องปมขัดแย้งนั้น เดิมเคยมีปัญหาเรื่องที่ดินปั๊มน้ำมันดังกล่าวที่นายประชา ซื้อต่อมาจาก นายดำรงฤทธิ์ หรือ เสี่ยท้ง ที่ทำแล้วขาดทุน โดยไปกู้ธนาคารมาซื้ออย่างถูกต้องในราคา 3.6 ล้านบาท พอนายประชาทำแล้วกิจการดีขึ้น มีกำไรดี ต่อมาเสียท้งต้องการจะซื้อปั๊มคืน แต่นายประชาไม่ยอมขาย จึงมีเรื่องทะเลาะกันมาตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ฝ่ายผู้เสียหายก็ไม่เคยระแวงว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำแบบนี้เพราะรู้จักกันมานาน และเขาก็เป็นผู้พิการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี