16 ต.ค.61 จากรณีที่ฝูงต่อหัวเสือ ได้ทำรังขนาดใหญ่อยู่บนเสาหม้อแปลงไฟฟ้า ภายในซอยเกียรติกุลหน้าโรงแรมอัลอามีน ภายในซอยเกียรติกุล หมู่ 7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ บินไล่ต่อยชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมา รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาพักโรงแรมได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่รังต่อก็ทำรังติดกับสายไฟฟ้า รวมทั้งสายโทรคมนาคมจำนวนมาก ทำให้ยากแก่การกำจัด ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวา เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางกำจัดโดยเร็ว เนื่องจากบริเวณเป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ มีถนนเข้าออกหลายเส้นทาง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา นายหราบ หง้าฝา นายกอบต.ไสไทย นายอาวุธ ไขแสง ปลัดอบต. เจ้าหน้าที่กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัด อบต.ไสไทย ได้เข้าทำการตรวจสอบ รังต่อหัวเสือดังกล่าวพร้อมสอบถามปัญหาความเดือดร้อนชาวบ้าน เพื่อหาแนวทางกำจัด

จากการตรวจสอบพบว่า รังต่อขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ซ.ม. ทำรังติดกับเสาไฟฟ้า สูงจากพื้นประมาณ 4 เมตร ตัวต่อได้บินเข้าออกรังตลอดเวลาและบางตัวบินวนเวียนบริเวณหลังคาร้านอาหาร บริเวณใกล้เคียงสร้างความหวาดกลัวแก่ชาวบ้านเป็นย่างมาก

นางรัตนา ต่อติด อายุ 54 ปี เจ้าของร้านข้าวแกงและอาหารตามสั่งบริเวณใกล้เคียง กล่าวว่า รังต่อหัวเสือ ทำรังมาไม่ถึงปีและเริ่มใหญ่ขึ้น และเมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา ขณะที่กับตันสายการบินแห่งหนึ่ง ที่พักอยู่ที่รร.อัลอามีน ได้ออกไปยืนคุยโทรศัพท์ที่ลานจอดรถที่มีรังต่อ จากนั้นก็เห็นฝูงต่อประมาณ 3-4 ตัว ก็ไล่ต่อยจนต้องวิ่งหนี และมีอาการแพ้จนไข้ขึ้น ซึ่งขณะนี้กลับกทม.แล้ว นอกจากนี้นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านที่ขับผ่านไปมาก็ถูกตัวต่อต่อยเช่นกัน

นอกจากนี้วัยรุ่นที่ขับรถจยย.ผ่านไปมา ในช่วงที่ตัวต่อกำลังบินกลับรัง ทำให้ตัวต่อไล่ต่อยจนบาดเจ็บ รวมทั้งเด็กอายุประมาณ 4-5 ขวบ ก็โดนต่อยจนเดินร้องไห้กลับบ้าน จึงอยากให้ทางผู้เกี่ยวข้อง เข้ามาทำลายรังต่อดังกล่าวเพื่อไม่ให้ตัวต่ออันตรายชาวบ้าน 

ด้านนานหราบ หง้าฝา นายกอบต.ไสไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าตัวต่อหัวเสือได้ทำรังมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งมีคนแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่อบต.เข้ามาตรวจสอบแล้ว และให้ทางผู้เชี่ยวชาญมากำจัด แต่ด้วยสภาพอากาศไม่อำนวย มีฝนตกบ่อยจึงไม่สามารถกำจัดได้จนกระทั่งเช้าวันนี้ ได้รับแจ้ง อีกว่ามีตัวต่อทำร้ายชาวบ้าน จึงได้เข้ามาตรวจสอบ ในเบื้องต้นได้ติดต่อผู้ที่ชำนาญ เข้ามากำจัดซึ่งในส่วนของสายไฟ และสายสัญญาณนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเพราะจะใช้สารเคมีกำจัด ไม่ใช้วิธีเผา โดยคาดว่าจะเร่งดำเนินการกำจัดได้โดยเร็วที่สุด ในเวลาประมาณ 2 ทุ่มคืนนี้เพื่อความสบายใจของพี่น้องประชาชน