อุทยานฯ “พญาเสือ” เดินหน้ากวาดล้างพรานป่าเมืองกาญจน์ อช.เขื่อนศรีนครินทร์ รวบ “พรานเฒ่า” 77 ปี ยึดซากสัตว์ป่าเพียบ ซากหนังวัวแดง-เขาวัวแดง ซากหมูป่า

ซากเนื้อกวางตากแห้ง ยันไม่ได้ล่า สารภาพพรรคพวกนำมาให้ ซื้อมา เร่งขยายผลล่าตัวกลุ่มพราน ล่าสัตว์ หลายอุทยานแห่ง พัวพันค้าไม้-ยาเสพติด

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม นายฐิติ โสภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่าเมื่อวันที่15ตุลาคม ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สายตรวจประจำอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์นำโดยนายอำพล ไหลยิ้ม หัวหน้าสายตรวจอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์(ส่วนกลาง)พร้อม เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายดำรัส โพธิประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง)ในการหยุดยั้งการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในช่วงวันหยุดยาวในเขตรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ประจำหน่วยพญาเสือ ได้รับการสั่งการจากนายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค รักษาการหัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ให้เข้าร่วมสนับสนุนตรวจสอบคดีตรวจยึดซากสัตว์ป่า

โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ร่วมกันจับกุม นายหวาน ทานกระโทก อายุ 77ปี พร้อมซากสัตว์ป่า จากแพพักบริเวณบ้านน้ำเอ๋อ ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรีในเขตอุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์ ยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย ซากหนังวัวแดงรมควัน น้ำหนัก 3.9 กิโลกรัม เขาวัวแดง 2 เขา น้ำหนัก 3.9 กิโลกรัม ซากเนื้อกวางตากแห้ง จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ซากหมูป่าตากแห้ง จำนวน 1ถุง น้ำหนัก 6.9 กิโลกรัม ขนเม่นใหญ่ อุปกรณ์แร้วดักสัตว์ 28 คัน กล้อง RED DOTและวิทยุสื่อสาร

นายยุทธพงค์กล่าวว่าสำหรับ การดำเนินการดังกล่าว เป็นการตรวจกวาดล้างกลุ่มพรานที่อาศัยช่วงเทศกาลเข้าไปล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์โดยเฉพาะเส้นทางน้ำ ในอ่างเก็บน้ำ สอบสวนนายหวานให้การว่า เป็นคนสุรินทร์ มาอาศัยอยู่กาญจนบุรี เป็นเวลา 34 ปีแล้ว มีแพพักเป็นที่อยู่อาศัยและเลี้ยงควายอยู่บริเวณน้ำเอ๋อท้าย เขื่อนศรีนครินทร์

สำหรับของกลางทั้งหมด สารภาพไม่ได้ไปล่าเอง แต่รับมาอีกที ซื้อมาบ้าง สะสมมาบ้าง จากพรรคพวกเพื่อส่งไปฝากญาติทางอีสานและไว้กินในบางส่วนและซากวัวแดง ได้รับมาจากทีมงานชื่อนายสุรชาติ กับนายครรชิตซึ่งเป็นชาวกระเหรี่ยงซึ่งนายสุรชาติ เคยถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์จับกุมในแพใกล้เคียงกันพร้อมซากสัตว์ป่าของกลางเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม โดยทราบว่าทั้งสองได้เข้าไปล่าสัตว์ป่าและเอาหนังวัวแดงและเนื้อวัวแดงมาฝาก

นายหวานยังให้การอีกว่าในพื้นที่ดังกล่าว บางช่วงมีพรานหรือกลุ่มพรานจากข้างนอกเข้าไปจำนวนมากแต่พูดไม่ได้เพราะแถวนั้นอยู่กันด้วยการไม่ยุ่งเกี่ยวกันเพราะเป็นเมืองเถื่อนมีทุกอย่าง แต่สำหรับพรานแล้วในกลุ่มที่แพพักอยู่ใกล้กัน ถ้ามีคนเข้าไปได้ของมา ก็จะนำมาฝากเหมือนว่าเป็นค่าปิดปากในทีมงานเดียวกัน เหมือนที่ได้ซากหนังวัวแดงและซากสัตว์ป่าอื่นๆ

นายยุทธพงค์ กล่าวว่าจากงานการข่าวพบว่านายสุรชาติ เป็นพรานเป้าหมายที่เกี่ยวข้องพัวพันกับการเข้าไปล่าสัตว์ทั้งในเขตอุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ทุ่งใหญ่และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งรวมทั้งพัวพันเรื่องการทำไม้ และอาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย

ทั้งนี้ นายฐิติ โสภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันทำการตรวจยึดของกลาง รวบรวมพยานหลักฐาน และแจ้งให้นายหวานรับทราบ ฐานความผิด 4 ข้อหา ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ. ศ. 2484 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ 2535

จากนั้น ได้นำตัวส่ง สภ.ด่านแม่แฉลบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมวางแผนขยายผลในการเข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มพรานดังกล่าวต่อไป