นายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอจตุรพัตรพิมาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การก่อสร้างอนุสาวรีย์จ่าแซม น.ต.สมาน กุนัน วีรบุรุษถ้ำหลวง ได้รับความร่วมมือจากทางคุณพ่อและคุณแม่ ญาติพี่น้อง และหน่วยงานราชการต่างๆ โดยมี นายตวง อันทะไชย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประสานเรื่องงบประมาณการก่อสร้างได้รับเงินสนับสนุนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้งรูปหล่อ ฐาน และบริเวณโดยรอบ
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดและครอบครัวของจ่าแซม ได้เดินทางไปร่วมเททองหล่อรูปหล่อเหมือน น.ต.สมาน กุนัน ที่โรงหล่อเฉลิมวงศ์ ที่ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ได้มีเกจิ อาจารย์ พระผู้ใหญ่ เข้าร่วมทำพิธี และเมื่อวันที่ 15 ต.ค.61 ทางโรงหล่อได้นำรูปหล่อเหมือน จ่าแซม มาส่งถึงบ้านหนองคูและติดตั้งให้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งบริเวณแห่งนี้เรียกว่า “อุทยานวีรบุรุษ น.ต.สมาน กุนัน” เป็นงบประมาณปรับภูมิทัศน์ บริเวณโดยรอบของจังหวัดร้อยเอ็ด ชื่อโครงการ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโนนเกาะน้อย ซึ่งได้รับอนุมัติมาก่อนหน้านี้แล้ว ทางครอบครัวจ่าแซมได้รับให้คำปรึกษาร่วมกับทางหน่วยงานราชการให้มีการจัดสร้างอนุสรณ์สถาน หรือ สร้างอนุสาวรีย์จ่าแซม ว่าจะเลือกสถานที่ตั้งที่ไหน ที่ดีในที่สุด และเห็นพ้องต้องกันว่า ที่บริเวณโนนเกาะน้อยเหมาะที่จะจัดสร้างอนุสาวรีย์จ่าแซม ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำห้วยกุดแคน-หนองแสนหำ มีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ เศษ
ในอนาคตจะมีการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ จ่าแซม ซึ่งจะรวบรวมประวัติจ่าแซม ข้าวของเครื่องมือของจ่าแซม ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ ให้ลูกหลานได้นำไปเป็นแบบอย่างในคุณงามความดีต่อไปและมีอาคารศาลาพัก มีห้องน้ำ มีไฟประดับ ปรับปรุงภูมิทัศน์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะมีการประสานงาน โดยนายตวง อันทะไชย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะได้เชิญครูบาบุญชุ่ม และทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ทั้ง 13 คน มากราบสักการะและขอขมาจ่าแซม และจะมีการทำพิธีเชิญเถ้าอัฐิของจ่าแซมนำมาบรรจุไว้ที่ใต้ฐานอนุสาวรีย์โดยจะให้ทางครูบาบุญชุ่ม เป็นผู้ทำพิธี ส่วนรายละเอียดต่างๆจะนำเรียนให้ทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ คุณพ่อจ่าแซม นายวิชัย กุนันท์ ได้เผยว่า ในวันที่ 20 ตุลาคม 2561 ที่จะถึงนี้ จะมีการทำบุญครบ 100 วัน น.ต.สมาน กุนัน ทางญาติและครอบครัวเป็นเจ้าภาพหลัก ณ บ้านเลขที่ 44 หมู่ ที่ 3 ต.เมืองหงส์ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ได้รับการสนับสนุนการจัดงานจากภาคส่วนราชการ โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และหัวหน้าส่วนราชการให้เกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้ ขอบคุณอี้ฟ กัญธนา ภาพและข่าว
สถานการณฺสร้างวีระบุรุษ “จ่าแซม” กรณีเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอน ทีมหมูป่า อะคาเดมีแม่สาย นักฟุตบอลเยาวชน จ.เชียงราย 13 ราย หายเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้สูญหายทั้งหมด
ตำนานถ้ำหลวง โดยหลังเกิดเหตุมีผู้นำเรื่องเล่าตำนานขอถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มาเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง โดยเพจ Lanna นำประวัติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มาเล่าต่อโดยเป็นประวัติที่เจ้านางเชียงรุ้ง ฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดหวังในความรัก ความว่า
ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
ขุนคีรีนี่หรือคือซากรัก
หญิงอกหักธิดาสาวเจ้าเชียงรุ้ง
รักวิบัติจึงพลัดพรากหนีจากกรุง
นางหมายมุ่งมาถิ่นดินแดนไทย
ทัพบิดายกมาทันหวาดหวั่นจิต
คร่ำครวญคิดคิดถึงคนรักจักทำไฉน
คืนพม่าท่าจะม้วยด้วยอาลัย
ยอมตักษัยให้รู้อยู่เชียงราย
นางใช้ปิ่นปักผมทิ่มแทงขมับ
ชีพลาลับเลือดกระเซ็นเป็นเส้นสาย
เป็นขุนน้ำนางนอนไหลไม่ขาดคลาย
ร่างวางวายกลายเป็นเขาแสนเศร้าเอย
เล่ากันว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองเชียงรุ้งสิบสองปันนา มีราชธิดาองค์หนึ่งทรงพระสิริโฉมงดงามยิ่ง แอบรักกับชายเลี้ยงม้า ซึ่งเป็นการผิดกฏตามโบราณราชประเพณี แต่ด้วยความรักที่มีต่อกัน ทั้งสองได้แอบรักกันมาจนกระทั่ง พระราชธิดาเกิดตั้งครรภ์ เห็นจะปิดความไว้ไม่ได้อีกต่อไป จึงหลบหนีตามกันมา พระราชบิดารู้ความเกิดความอับอายที่พระราชธิดาใฝ่ต่ำ ก็ส่งทหารไล่ติดตาม
ทั้งสองระหกระเหินเดินป่า จนถึงร่มไม้ในที่ราบแห่งหนึ่งริมน้ำโขง ราชธิดาซึ่งทรงพระครรภ์ได้หลายเดือนแล้วเสด็จต่อไปไม่ไหว จึงบอกชายคนรักว่าไปต่อไม่ไหว หิว และเหนื่อยอ่อน จะรออยู่ที่นี่ ชายหนุ่มก็บอกนางว่า ให้รออยู่ที่นี้จะไปหาอาหารมาให้ อย่าเสด็จไปไหน แล้วชายหนุ่มก็เข้าป่าไปหาอาหาร
กองทหารเชียงรุ้งตามมาทัน เห็นชายเลี้ยงม้าในป่า ก็เข้าดลุ้มรุมฟันแทง ตายอยู่กับที่ ฝ่ายพระราชธิดารอชายคนรักจนเย็นมืดค่ำก็ไม่เห็นกลับมา ชะแง้เก้อชะเง้อคอยอยู่นาน ก็เห็นกองทหารของพระราชบิดาออกมาจากชายป่า เข้าล้อมพระราชธิดาไว้ แล้วทูลเชิญกลับไปยังนครเชียงรุ้ง พระราชธิดาตระหนกตกใจสังหรณ์ว่าชายคนรักจะเป็นอันตรายเสียแล้ว แต่ก็ยังแข็งใจตรัสถามทหารว่าเห็นชายหนุ่มหรือไม่ ทหารก็ทูลตอบว่า ได้ฆ่าตายเสียแล้ว
เมื่อทรงทราบดังนั้น พระราชธิดาทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ทรงกรรแสงคร่ำครวญเกลือกกลิ้งอยู่กลับพื้น ใคร่ครวญเห็นว่าคนรักก็ได้ตายจากไปแล้ว จะเสด็จกลับนครเชียงรุ้งก็คงถูกราชอาชญาสาหัส อีกทั้งทรงครรภ์กับชายเลี้ยงม้า ชาวเมืองคงจะดูแคลนเล่นไปจนตลอดพระชนม์
เมื่อได้สติจึงตั้งสัจจะอธิษฐาน เอาความรักอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง ดึงปิ่นที่ปักผมออกมา แทงพระขมับของพระองค์เองจนโลหิตไหลออกมาเป็นสาย สิ้นพระชนม์อยู่ตรงนั้น
สายพระโลหิตที่ได้หลั่งไหลออกมา ได้กลายมาเป็นต้นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้ ส่วนพระวรกายของพระราชธิดาที่นอนเหยียดยาวจากใต้จรดเหนือ ก็กลายเป็นดอยนางนอนจวบจนทุกวันนี้ อิตถีเพศของพระนางกลายเป็นถ้ำหลวง และส่วนของพระอุทรที่ทรงครรภ์ก็เป็นดอยตุง
ส่วนที่เป็นพระเศียรกลายเป็นดอยท่า (ปัจจุบันเรียกดอยจ้อง) พระถันกลายเป็นดอยอีกลูกหนึ่งขึ้นมา เรียกว่าดอยแม่ย่า
ในตำนานลาวจกจากพงศาวดารลาวเฉียง เล่าว่าปู่เจ้าลาวจกเทวบุตรก่ายบันได้เงินลงมาจากสวรรค์ ต่อมาได้สร้างตุงใหญ่ขึ้นปักบนดอยจึงเรียกดอยนั้นว่าดอยตุง ส่วนดอยที่เกิดจากพระถันนั้น ยอดพระถันเป็นที่อยู่ของชายาปู่เจ้าลาวจก จึงเรียกว่าดอยแม่ย่า ส่วนดอยที่เกิดจากพระเศียร เป็นดอยที่ราชโอรสปู่เจ้าลาวจกคอยพ่อ จึงเรียกว่าดอยท่า
เชื่อกันว่าดอยทั้ง 3 ในเทือกเขานางนอนนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของราชวงศ์ลาวจักราช ต้นวงศ์ของพญาเม็งราย ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาสร้างเมืองหิรัญนครเงินยาง เหนือดอยดินแดงเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยตุง ถือเป็นปฐมธาตุแห่งแรกของล้านนาประเทศ
วัชรินทร์ เขจรวงศ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี