บิ๊กฉัตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนกระเสียวน้ำ หลังปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือ 35% ยันไม่มีน้ำเพียงพอหนุนทำนาปรังกว่า 8 หมื่นไร่ จี้หน่วยเกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือพร้อมแจ้งเตือนเกษตรกรล่วงหน้า แต่มั่นใจการจัดสรรน้ำอุปโภค-บริโภคไม่กระทบ เหตุกลุ่มผู้ใช้น้ำเข้มแข็ง ยกเป็นโมเดลทางรอดช่วงแล้ง
17 ต.ค.61 เวลา 09.00 น. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2561/62 ที่ อ่างเก็บน้ำกระเสียว ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) และนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดี กรมชลประทาน ว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวม ณ พบว่าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 56,915 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 80 มีน้ำใช้การได้ 33,372 ล้าน ลบ.ม. จัดว่ามีน้ำอยู่ในระดับดีมาก แต่ปริมาณฝนกระจุกตัว ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 มี 16 แห่ง
แต่ในขณะเดียวกัน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 60 ก็มีถึง 8 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 2 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนแม่มอก เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ภาคอีสาน 4 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนมูลบน และเขื่อนลำนางรอง ภาคกลาง 2 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนกระเสียว และเขื่อนทับเสลา
สำหรับการลงพื้นที่เขื่อนกระเสียวครั้งนี้ เนื่องจากเป็น 1 ใน 2 เขื่อนภาคกลางที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 60 ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 105 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 35 เป็นน้ำใช้การได้ 65 ล้าน ลบ.ม. จึงถือโอกาสเน้นย้ำทุกหน่วยงาน เตรียมมาตรการลดผลกระทบความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุดไว้ล่วงหน้า โดยการทำงานเชิงรุกในการคาดการณ์สภาพอากาศ วางแผนช่วยเหลือพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยแล้ง และสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนเกษตรกร และขับเคลื่อนแผนอย่างบูรณาการ โดยเน้นย้ำการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งต้องขอชื่นชมคณะกรรมการจัดการชลประทานโครงการ หรือคณะกรรมการ JMC ของเขื่อนกระเสียว มีความเข้มแข็งมากที่เห็นได้ชัดเจนในปี 2558/59 ซึ่งเขื่อนกระเสียวมีน้ำน้อยมาก แต่สามารถบริหารจัดการน้ำได้เป็นอย่างดี โดยขอความร่วมมือเกษตรกรผู้ใช้น้ำในการงดทำการเกษตรทั้งพื้นที่ ทำให้มีน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำรักษาระบบนิเวศ ผ่านวิกฤตแล้งไปได้ นับเป็นแบบอย่างการบริหารจัดการน้ำโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่นำไปขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ ที่อาจจะต้องประสบปัญหาในช่วงฤดูแล้งเช่นเดียวกัน
“นอกจากการบริหารจัดการน้ำต้องสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพื่อจัดสรรน้ำที่มีอยู่ตามความเร่งด่วนตามลำดับ ได้แก่ น้ำอุปโภคบริโภค น้ำรักษาระบบนิเวศ น้ำเพื่อการเกษตร/อุตสาหกรรม และ อื่นๆ แล้ว ต้องหาวิธีการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ได้แก่ การใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ การผันน้ำ การขุดเจาะบ่อบาดาล การจัดรถขนส่งน้ำ และ การปฏิบัติการฝนหลวง ขณะเดียวกันในระหว่างที่เกิดวิกฤตแล้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ พร้อมให้คำแนะนำช่วยเหลือเกษตรกร ให้หลีกเลี่ยงการทำการเกษตรที่ไม่ได้ผล และมีทางเลือกในการทำการเกษตรที่ใช้น้ำน้อย หรือประกอบอาชีพอื่นๆ ที่ทดแทนรายได้ รวมถึงกระทรวงมหาดไทยที่จะให้การช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งอาจจะพิจารณานำแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรในฤดูแล้งปี 2558/59 มาดำเนินการปรับใช้ด้วย” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถิติ 7 ปีย้อนหลัง พบว่า แนวโน้มปริมาณน้ำในอ่างฯ กระเสียวจะสูงขึ้นในห้วงกลางเดือน พ.ค.-ก.ค. ซึ่งในปี’61 ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ช่วงเม.ย. – มิ.ย. มากกว่าค่าเฉลี่ย 106 ล้าน ลบ.ม. แต่ช่วงก.ค. ถึงปัจจุบันพบว่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 37 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ช่วงฤดูฝน การบริหารจัดการน้ำของอ่างฯ กระเสียว ได้ระบายน้ำให้อยู่ตามเส้นเกณฑ์เก็บกักน้ำสูงสุด แต่เมื่อประสบกับฝนตกน้อยช่วง ก.ค.-ก.ย. จึงทำให้ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำน้อย
โดยปีที่น้ำน้อยสุด คือ ปี’58 มีน้ำ 96 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 32% ปัจจุบันมีน้ำ 105 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 35% และจากการคาดการณ์ปริมาณน้ำในอ่างฯ กระเสียว ณ วันที่ 1 พ.ย.61 จะมีปริมาณน้ำใช้การ 54 ล้าน ลบ.ม. โดยกรมชลประทานได้วางแผนการจัดสรรน้ำ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงฤดูแล้ง ปี 2561/62 (พ.ย. - เม.ย.) จัดสรรน้ำปริมาณ 42 ล้าน ลบ.ม. เพื่ออุปโภคบริโภค 2 ล้าน ลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 1 ล้าน ลบ.ม. อุตสาหกรรม 9 ล้าน ลบ.ม. การเกษตรต่อเนื่อง 30 ล้าน ลบ.ม. ได้แก่ อ้อย พืชไร่-พืชผัก และ ไม้ผล-ไม้ยืนต้น รวมพื้นที่ 26,500 ไร่ ซึ่งไม่เพียงพอให้การสนับสนุนการทำนาปรัง 83,270 ไร่ ช่วงต้นฤดูฝน ปี 2562 (พ.ค. - ก.ค.) จัดสรรน้ำสำรองปริมาณ 16 ล้าน ลบ.ม.
ดังนั้น เมื่อปริมาณน้ำต้นทุนมีน้อย และน้ำอาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมต่ำสุด สทนช.จะกำกับ ติดตาม และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแจ้งเตือนให้ประชาชนด้านท้ายน้ำให้ทราบว่ามีน้ำน้อยรณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด ซึ่งเชื่อมั่นว่าการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำกระเสียวจะสามารถผ่านพ้นช่วงฤดูแล้งนี้ไปได้.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี