“บิ๊กแดง”มอบนโยบายแก้ปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำชับทุกหน่วยประสาน ตร. ต้องแยกแยะคดี-เหตุการณ์ ลั่นจะเข้มงวดกำลังพลมากกว่านี้ ยึดแนวทาง“บิ๊กเจี๊ยบ”ลงพื้นที่นอนค้างคืนทุกเดือน ประกาศบี้คดียาเสพติด-อาวุธสงคราม ฮึ่ม!พบกำลังพลมีเอี่ยว ใช้ระบบสอบตรงตัดสินโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าตนจะลงไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงปลายเดือนนี้เพื่อมอบนโยบายการทำงานอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนเคยรับราชการเป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 24 ที่ จ.สตูล และเป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ อ.ธารโต และ อ.เบตง จ.ยะลา มีความคุ้นเคยกับหน่วยและพื้นที่พอสมควร
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าสำหรับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในฐานะที่เป็นผบ.ทบ.ในขั้นต้นยังไม่ได้มอบนโยบายไป แต่ได้บอกกล่าวกับหน่วยปฏิบัติไปแล้วว่าให้ร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแยกแยะแต่ละคดีความให้ออก ซึ่งหากมองย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์ปล้นและฆ่ากันเหมือนกับที่กทม.แต่ขอให้แยกแยะเหตุการณ์ว่าเหตุการณ์ใดเป็นก่อการร้าย หรือเหตุการณ์ไหนเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเป็นการปล้นฆ่า ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่มีพื้นที่ไหนในโลกที่ไม่มีการปล้นและฆ่ากัน ดังนั้นต้องแยกแยะเหตุการณ์
“การทำสถิติของเหตุการณ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่สำคัญผมจะเข้มงวดกำลังพลให้มากกว่านี้ และได้เชิญพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาประชุมเพื่อมอบนโยบาย และผมจะลงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำตามพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ซึ่งเป็นอดีตผบ.ทบ.ได้เคยดำเนินการไว้ เช่น การไปค้างคืนในพื้นที่เป็นเวลา 1-2 คืน เดือนละครั้งและจะทำเช่นนี้ให้ได้” พล.อ.อภิรัชต์ ย้ำ
ทั้งนี้พล.อ.อภิรัชต์ยังกล่าวย้ำถึงนโยบายที่มอบต่อหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกว่า มี 2 ประเด็น คือยาเสพติดและอาวุธสงคราม ซึ่งเน้นย้ำไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มเติม นอกเหนือจากการให้กวดขันในหน่วยทหารแล้ว หากมีกำลังพล เข้าไปเกี่ยวข้องตนจะไม่ใช้กระบวนการสอบสวนโดยตรงจะตัดสินด้วยความรวดเร็ว จะดำเนินการทันที ส่วนกรณีที่สองหากประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมกับยาเสพติดและอาวุธสงครามจะติดตามผลคดีด้วย เพราะที่ผ่านมาประสบการณ์ของตนในการเป็นผู้บัญชาการกองพล เป็นแม่ทัพภาค เมื่อจับกุมได้เราก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ส่งฟ้องศาล บางครั้งก็ไม่ได้รับโทษ อาจมีเรื่องของหลักฐาน ข้อมูลต่างๆ ตนจึงได้สั่งการให้ติดตามว่าใครเป็นเจ้าของสำนวนใคร เป็นเจ้าของคดี ส่งเรื่องไปถึงไหน เพื่อให้ครอบคลุม และมั่นใจว่าขยายผลได้ผู้กระทำผิดติดคุกและต้องได้รับโทษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี