กรมบังคับคดีขยับวิจัย ลุยยึด-อายัดสินทรัพย์ดิจิทัลทุกสกุล
17 ต.ค.61 ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับศูนย์วิจัยกฎหมายและการพัฒนา คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการศึกษาวิจัยเรื่อง “การบังคับคดีกับสินทรัพย์ดิจิทัล” โดยมี ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ให้เกียรติร่วมรับฟังการนำเสนอผลการวิจัย
น.ส.รื่นวดี กล่าวว่า ปัจจุบันสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นที่นิยมแพร่หลาย และเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกประเภทหนึ่งที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจที่จะถือครอง นอกจากนี้ยังมีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ในการจำหน่ายสินค้า และการให้บริการ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี Block Chain มาใช้ในธุรกิจการเงินที่เรียกว่า Fin Tech (Financial Technology) ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในปัจจุบันได้แก่ ระบบการเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) อันเป็นที่มาของสกุลเงินดิจิทัล อาทิ Bitcoin, Ethereum, Ripple, Cardano, Stellar
อธิบดีกรมบังคับคดี เผยอีกว่า โครงการศึกษาวิจัยดังกล่าวเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น ที่มา ประเภท สิทธิ การครอบครอง ความเป็นเจ้าของ การได้มา (การระดมทุน) การกำกับดูแล การจำหน่ายจ่ายโอนกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ละรูปแบบ/ประเภท รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับสภาวะแวดล้อมของสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งบุคคล องค์กร กลไก กระบวนการต่าง ๆ
“งานวิจัยดังกล่าวครอบคลุมเรื่องการยึดและอายัดสินทรัพย์ดิจิทัล การเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล และการจำหน่ายทรัพย์สินตามคำพิพากษา เพื่อเป็นประโยชน์ในการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล โดยมีการศึกษากฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และแคนนาดาเปรียบเทียบ” น.ส.รื่นวดี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี