18 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ซึ่งเป็นบ้านของนายอาจ โนราเจ๊ะ อายุ 69 ปี หลังได้รับการร้องเรียนว่าอยากให้หน่วยที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวของตน เนื่องจากตนได้กลายเป็นคนพิการเนื่องจากถูกตัดนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วชี้มือซ้ายเมื่อช่วงปลายเดือนก.ย.2561 ที่ผ่านมา เพียงเพราะตนปวดหัวไปพบหมอที่รพ.ทุ่งหว้า โดยขอให้หมอฉีดยาให้ หลังรับยาเดินทางกลับบ้านตกกลางดึกมีอาการปวดมือซ้ายจนทนไม่ได้ หลังหมอเห็นอาการได้รีบส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.เมืองสตูล ทันที ก่อนที่หมอในรพ.สตูลชี้แจงว่าต้องตัดนิ้วมือทิ้งเพราะนิ้วเส้นตายหมดแล้ว
นางอุสา ปาวัล อายุ 43 ปี บุตรสาว และนางประคอง ปาลาหา อายุ 48 ปี ลูกเลี้ยงและทุกคนในครอบครัว ยอมรับว่า รู้สึกแปลกใจที่พ่อแค่มีอาการปวดหัวเพราะเป็นโรคลมบ่อยครั้ง โดยไม่มีโรคอื่นแทรกซ้อน ไม่มีโรคเบาหวาน ไม่มีโรคความดัน พ่อเป็นคนแข็งแรงมากพายเรือทุกวันเพื่อออกไปวางไซดักปูดำ มีรายได้วันละ 300-500 บาท หลังไปฉีดยาจากรพ.ทุ่งหว้า ปกติจะฉีดที่ข้อพับเนื่องจากหมอลงความเห็นว่า ไม่พบเส้นจึงเปลี่ยนมาฉีดยาที่ง่ามนิ้วมือ ตกดึกพ่อปวดแขนจนทนไม่ได้ เล็บนิ้วมือที่ใกล้จุดฉีดยาเขียวช้ำ เนื้อพุพอง จนต้องตัดนิ้วและกลายเป็นคนพิการอย่างที่เห็น ทำมาหากินไม่ได้
จากนิ้วมือที่ดีๆ อยู่สุดท้ายต้องมาถูกตัดนิ้วมือออกทำให้กลายเป็นคนพิการ ซึ่งกรรมการหมู่บ้านและผู้ใหญ่บ้านต่างปรึกษาหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกบ้านและเดินเรื่องให้ความช่วยเหลือ โดยนายสมหมาย ลาทัพ สท.เทศบาลตำบลทุ่งหว้า และนายวิจิตร ทุ่งหว้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ยืนยันว่านายอาจ เป็นคนแข็งแรงและขยันขันแข็งแม้จะมีอายุ 69 ปี ก็ยังพายเรือออกไปตกปู ตกปลาหารายได้เลี้ยงภรรยาและลูกที่พิการทางสมองวัย 58 ปีได้สบาย แม้จะมีเงินผู้สูงอายุ และบัตรสวัสดิ์การของรัฐ และตอนนี้ช่วยกันเดินเรื่องทำบัตรคนพิการให้ แต่กว่าเงินจะออกก็สิ้นเดือนระหว่างนั้นก็ไม่มีรายได้อะไร ซึ่งได้ประสานกลับไปทางรพ.ที่เกี่ยวข้องแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลอะไร ซึ่งทางหมู่บ้านและชุมชนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอะไร ก่อนที่ทุกคนในครอบครัวและหมู่บ้านจะลงความเห็นว่าต้องเดินทางไปแจ้งร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งหว้า ในการหาทางช่วยเหลือเยียวยาให้กับพ่อและคนในครอบครัวของตน ซึ่งนายสาทร หวังพัฒน์ นอภ.ทุ่งหว้า และนายสุรวุฒิ แก้วกระจ่าง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งหว้าลงมารับเรื่อง พร้อมยืนยันว่าจะเร่งประสานความช่วยเหลือและติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าช่วยเหลือตามที่ญาติและผู้เสียหายร้องขอ
ขณะที่นางสาวกัลยาทรรศน์ ติ้งหวัง หัวหน้าหน่วยรับเรื่องร้องเรียนจากหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่ารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และเตรียมเข้าเยียวยาเนื่องจากเป็นผลมาจากความเสียหายจากระบบหลักประกันสุขภาพ ตามมาตรา 41 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งหลังจากนี้จะลงเก็บข้อมูลและให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี