จังหวัดชัยนาท เผยผลสำเร็จโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี กิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (กลุ่ม D) ในพื้นที่ 6 ตำบล 6 อำเภอ รวม 34 ผลิตภัณฑ์
ดร.ปาริชาติ บุญญาวิวัฒน์ อดีตพัฒนาการจังหวัดชัยนาท ประธานโครงการเผยว่า “จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม มุ่งเน้นสร้างรายได้และความเจริญความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จังหวัดชัยนาท จึงได้จัดทำ โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี กิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (กลุ่ม D) เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางในการท่องเที่ยวกระแสหลัก เมืองรอง ชุมชน ให้มีความโดดเด่น มีความพร้อมบนอัตลักษณ์และเสน่ห์ของชุมชน โดยได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จำนวน 24 หมู่บ้าน และได้ดำเนินการจัดกิจกรรมหลักที่จะดำเนินการในเรื่องของการพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดชัยนาทแม้จะเป็นเมืองรองแต่ก็มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้ที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ มีประวัติความเป็นมาที่คนสรรคบุรีภาคภูมิใจ ทั้งความผูกพันกับราชสำนักตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา โบราณสถานอันทรงคุณค่า และภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติ โดยที่ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง เขาธรรมามูล ยังเป็น Landmark เป็นฉากหลังของตราสัญลักษณ์จังหวัดชัยนาท เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตำบลเนินขาม อำเภอเนินขาม กับตำบลกุดจอก อำเภอหนองมะโมง บริเวณเนินขามได้ชื่อว่าเป็นแหล่งวัฒนธรรม “ลาวเวียง” ส่วนอำเภอหนองมะโมง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งวัฒนธรรม “ลาวครั่ง” ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่นำภูมิปัญญาด้านการทอผ้าเข้ามาสู่ชัยนาทซึ่งถือเป็นของขึ้นชื่ออีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของจังหวัด อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตพื้นบ้าน ที่เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสอีกด้วย”
ดร.ปาริชาติ บุญญาวิวัฒน์ กล่าวต่อว่า “สำหรับกิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (กลุ่ม D) เป็นกิจกรรมที่ต่อยอดพัฒนาสานต่อโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้จัดให้มีการอบรมให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นของฝากของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว โดย วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ให้มีรูปแบบสวยงาม และบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ อีกทั้งยังได้ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ รวมทั้งการจัดทำผลิตภัณฑ์เพื่อการทดสอบตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และสร้างนวัตกรรมกระบวนการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เป็นการเพิ่มมูลค่าและยกระดับสินค้า โดยการสร้างเรื่องราว (Story) ของผลิตภัณฑ์ และการสร้างตราสินค้า (Brand) ที่มีอัตลักษณ์และสอดคล้องกับเสน่ห์ของชุมชน เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างแรงดึงดูดใจให้กับลูกค้า และสามารถขยายช่องทางการจำหน่ายได้ ทั้งในและต่างประเทศ โดยการดำเนินกิจกรรมได้จัดให้มีการพัฒนาตราสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ ในพื้นที่เป้าหมายจำนวน 11 ชุมชน ใน 6 ตำบล, 6 อำเภอ รวมผลิตภัณฑ์ต้นแบบทั้งสิ้น 34 ผลิตภัณฑ์ แต่ละต้นแบบมีจำนวน 3 ตัวอย่าง (repeating) พร้อมการพัฒนาตราสินค้า 34 รายการ และบรรจุภัณฑ์สำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยสรุปผลการดำเนินงาน ดังนี้
ตำบลเนินขาม อำเภอเนินขาม จำนวน 18 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ตราสินค้า “ฝ้ายฝักคูน”, “จกกระจาย” “โซ่งกบ”,“ฝ้ายลดา,“ผ้าปักบักมี่”,“เกี้ยวหัวเข็ม”,“เครือฝ้ายทอคราม”,“เจี๊ยบเจนนี่ (JEAB JENNY)”,“สีวันนา (Xi Wanna)”,“ไหมมุก” (กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านทุ่งหมู่ 9), “ไหมมุก” (กลุ่มทอผ้าลาวเวียงบ้านหนองระกำหมู่ 6), “เบญจ” (BENJA) ต้นแบบ “กระเป๋าเบญจ-ลายใบมะขาม”, “เบญจ” (BENJA) ต้นแบบ “พุ่ยสร้อยสา” เครื่องประดับ, “ถงนาง”, “จกเวียงเนิน”ต้นแบบ “ชุดกลีบบัว” เสื้อลำลองสำหรับสตรี, “จกเวียงเนิน” ต้นแบบ “สำเภาทอง-ใบมะขาม” ชุดลำลองสตรี, “มัดม่วน” (MUD MUAN) และ “นางฟ้า”
ตำบลหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ตราสินค้า สินค้า “ปั๊ก เปมิกา” (PUCK PEMIKA) และ “KON Handcraft by ฅ.ถักเชือก”
ตำบลหนองบัว อำเภอวัดสิงห์ จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ตราสินค้า “แมงปอล้อบัว” และ “บัวบาติก” (BUA BATIK)
ตำบลกุดจอก อำเภอหนองมะโมง จำนวน 8 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ตราสินค้า “สานศรี” (SAN XI), “ศรีภูฆัง”, “มะโมงแฮนด์คราฟ” (MA MONG Handcraft),“อีเกิ้ง พระจันทร์แห่งกุดจอก”,“ศรีงามซ้อง”, “ค้ำคูน”,“จำปาลาว” และ “มัดดะ” (MUDDA)
ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ตราสินค้า “จิ๊กโก๋สายบุญ”,“กุหลาบละมุน” (Gulab LaMoon) และ “ปลายนา”
ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จำนวน 1 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ตราสินค้า “THAMMA”
สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ไปสู่กลุ่มสินค้าที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว ได้สรุปผลการดำเนินงานโดยจำแนกรูปแบบของผลิตภัณฑ์ การตลาด และศึกษาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี กล่าวคือ OTOP นวัตวิถี คือการดึง “คนซื้อ+ใจคนซื้อ” เข้ามาในบ้าน โดยใช้โอกาสทางการท่องเที่ยวเป็นธงในการวางเป้าหมาย ยังคงใช้จุดแข็งเดิมของการผลิตสินค้า OTOP คือ ผลิตจำนวนไม่มาก ใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีอัตลักษณ์ สกัดเฉพาะส่วนที่เป็นเสน่ห์เพื่อนำมาใช้ในรูปของสินค้า (และบริการ) ที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ (หรือใช้บริการ) ได้อย่าง “ร่วมวิถี-ร่วมสมัย” หมายถึง ยังมีกลิ่นอายของเสน่ห์ดั้งเดิม แต่ปรับรูปแบบให้ใช้ได้ง่ายในชีวิตปัจจุบัน
“ในกรณีผ้าและเครื่องแต่งกายของกลุ่มเป้าหมาย 34 รายการ หมายถึงการนำเสน่ห์เพียงบางส่วนมาใช้ แต่ปรับรูปแบบสินค้าให้สอดคล้องกับนัยสินค้าที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว กล่าวคือโดนใจคนซื้อ ราคาไม่แพง สามารถตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก ทั้งเพื่อตนเองและฝากเพื่อน ขนาดสินค้าสามารถพกพาได้ง่ายบรรจุภัณฑ์สะท้อนถึงคุณค่าในตราสินค้าและบริบทวิสาหกิจชุมชน” ดร.ปาริชาติ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี