เรียกร้องกัปตันเสียสละ
สหภาพฯฮึ่ม!
หนุน‘สุเมธ’สางปัญหา
50นักบินตบเท้าโชว์พลัง
เริ่มก่อหวอดไม่ทำหน้าที่
นักบิน-กัปตันจำปี นัดรวมตัวสำนักงานใหญ่ ให้กำลังใจเพื่อนนักบิน TG971 ที่ถูกตั้งกรรมการสอบฯปมแย่งที่ผู้โดยสาร หลังดีดีเรียกคุยส่วนตัว ด้านสหภาพจี้ฝ่ายบริหารเคลียร์ปัญหา ชี้กระทบภาพลักษณ์องค์กรเสียหายหนัก
หนุนถึงเวลายกเครื่องโครงสร้างองค์กร เผยความเห็นส่วนตัว นักบินที่ไม่ได้อยู่ระหว่างปฎิบัติหน้าที่ควรเสียสละ ขณะที่ “สุเมธ”แจงแค่เรียกมาคุยส่วนตัว เพื่อทำความรู้จัก ไม่มีผลต่อการสอบสวน
จากกรณีเที่ยวบินที่ TG 971 ซูริก-กรุงเทพฯ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดีเลย์ เนื่องจากนักบินไม่ยอมนำเครื่องขึ้น เพราะที่นั่งของนักบินที่จะโดยสารต้องการเดินทาง ไม่ได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาสตามต้องการ ทำให้ผู้โดยสารปกติประมาณ 300 คนต้องรอ สุดท้ายมีผู้โดยสารสองสามี-ภรรยายอมสละที่นั่งชั้นธุรกิจให้นักบินที่ต้องการเดินทาง เครื่องจึงขึ้นบิน ต่อมาผู้บริหารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกมาแถลงการณ์ขอโทษ และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนักบินและเจ้าหน้าที่ ให้รู้ผลภายใน 7 วัน ตามทีมีการเสนอข่าวนั้น
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักบินและกัปตันสายการบินไทยประมาณ 40-50 คนที่ไม่มีตารางการบิน จากทั้งหมด 1,200 คน นัดเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อแสดงพลังและให้กำลังใจนักบินและเจ้าหน้าที่ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้โดยสารเที่ยวบินทีจี 971 เส้นทางซูริค-กรุงเทพฯวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาร้องเรียน ต้องสละที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาส ให้นักบินที่ร่วมโดยสาร เพราะต้องไปปฏิบัติงานต่อเนื่อง โดยกลุ่มนักบินการบินไทยนัดแสดงพลังผ่านไลน์กลุ่มส่วนตัว ระบุ เป็นการชุมนุมแบบสันติ
ขณะที่กัปตันสนอง มิ่งเจริญ นายกสมาคมนักบินไทยได้โพสต์เฟซบุ๊คเชิญชวนให้กลุ่มนักบินการบินไทย เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นชุดเครื่องแบบนักบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เรียกตัวแทนนักบินเที่ยวบิน TG 971 และนายสถานีซูริคเข้าพบ เพื่อแก้ปัญหาขัดแย้ง หลังเกิดเหตุมีการแชร์ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียถึงปัญหาแย่งที่นั่งระหว่างผู้โดยสารและนักบิน จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การบินไทย โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากเฝ้ารอทำข่าว
ด้านนายสุเมธกล่าวว่า รับทราบจะมีกลุ่มนักบินมาแสดงพลังให้กำลังใจนักบินกรณีปัญหาเที่ยวบิน TG 971 ซึ่งตนก็ไม่ขัดข้อง เป็นสิทธิที่ทำได้และไม่ได้มีการขอนัดพบอะไร แต่หากนักบินต้องการขอพบหารือ หรือพูดคุยก็ยินดี
“วันนี้ผมนัดนักบิน และนายสถานีที่ซูริกมาพบมาทำความรู้จักกันในฐานะเจ้านาย ลูกน้อง ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบว่า ที่ผ่านมา ทำงานมีปัญหาอะไรหรือไม่ อึดอัดหรือไม่ ผมพร้อมรับฟังทุกคน ไม่ได้เรียกมาสอบสวนอะไร ซึ่งการคุยครั้งนี้จะไม่ได้มีผลอะไรต่อการสอบสวนข้อเท็จจริง” นายสุเมธกล่าว และว่า วันเดียวกันนี้ การบินไทยมีการประชุมผู้บริหารระดับสูงร่วมกับประธานบอร์ด ซึ่งเป็นการประชุมประจำสัปดาห์ทั่วไป ระหว่างประชุมประธานบอร์ดหยิบยกกรณีปัญหาดังกล่าวขึ้นมาพูดคุยด้วย ส่วนเรื่องการสอบข้อเท็จจริงนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบแล้ว ในฐานะดีดี ตนจะไม่เข้าไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของกรรมการต้องสอบข้อเท็จจริงแบบอิสระ สำหรับผลกระทบเที่ยวบินล่าช้า ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก และความรู้สึกลูกค้านั้น เบื้องต้น สั่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาแนวทางเยียวยาเป็นการด่วน
มีรายงานว่า หลังจากที่นักบินใช้สื่อโซเชียลนัดหมายกันไปแสดงพลังที่สำนักงานใหญ่ บ.การบินไทย เวลา 14.00 น. ปรากฏว่ามีนักบินประมาณ 50 คนที่เดินทางมา แต่ไม่ได้แต่งชุดนักบิน โดยไปรวมกันที่สมาคมนักบินชั้น3-4ของอาคาร 5 ขณะเดียวกันกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้นัดทั้งฝ่ายกัปตันและนายสถานีซูริค ที่มีปัญหากันทำให้เที่ยวบินทีจี 971 ล่าช้ากว่ากำหนดมาสอบสวนข้อเท็จจริงบนชั้น 26 ของอาคารดังกล่าว
แหล่งข่าวรายงานว่า วันนี้นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม ดีดีใหญ่การบินไทย ได้เชิญคู่กรณีคือกัปตันและนายสถานีที่ซูริค มาพบปะพูดคุย ปรากฏว่าพอถึงเวลา มีเฉพาะนายสถานีซูริคมา ส่วนกัปตันไฟลท์ดังกล่าวไม่ได้มาโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล
ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายนักบินแจ้งว่า ขณะนี้เริ่มมีปฏิกิริยาจากนักบินทั้งกรณีปัญหาซูริคและการขอขึ้นค่าบิน ตอนแรกมีการขู่จะสไตรค์ แต่ได้เปลี่ยนวิธีคือ หากไฟลท์บินไหนขาดนักบินแล้วถูกเรียกไปบิน นักบินเหล่านี้ก็จะปฏิเสธไม่ไปบิน แต่จะบินเฉพาะไฟลท์บินปกติที่ตนเองได้รับมอบหมายเท่านั้น นี่เป็นมาตรการเริ่มต้นของนักบิน ที่ใช้ตอบโต้ฝ่ายบริหาร แต่อย่างไรก็ตาม มีนักบินจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยเพราะวิธีดังกล่าวสร้างความเสียหายให้แก่องค์กร
ส่วน นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยแถลงถึงปัญหาดังกล่าว โดยยอมรับว่า ส่งผลกระทบโดยตรงเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์การบินไทย และเมื่อผลสอบสวนเสร็จตามที่ดีดีการบินไทยระบุจะเสร็จภายใน 7 วัน หลังจากนั้นสหภาพฯจะเข้าพบ เพื่อสอบถามแนวทางแก้ปัญหา เพื่อกู้ภาพลักษณ์บริษัทฯ
ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้นยอมรับว่า กัปตันที่เดินทางกลับเที่ยวบินดังกล่าวและเกิดความขัดแย้งเป็นกลุ่มกัปตันที่เดินทางกลับและไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่รับช่วงบินต่อ ดังนั้น ความเห็นส่วนตัวเห็นว่านักบินควรให้ความสำคัญ และสละที่นั่งให้ผู้โดยสาร โดยการให้สิทธิ์นักบินนั่งเฟิร์สคลาสควรจะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย กรณีที่นักบินต้องทำการบินรับช่วงต่อ ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยการบินทั่วโลก ระบุว่านักบินต้องพักผ่อนเพียงพอ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารนับร้อยคน เรื่องการสละที่นั่งให้ผู้โดยสารเคยมีผู้บริหารทำมาแล้วในอดีต
“ขอให้รอผลสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนว่า ตกลงเกิดอะไรขึ้น ประเด็นก็คือผู้โดยสารที่ต้องรอ 2 ชั่วโมง ส่วนปัญหาที่ว่าฝ่ายนักบินอาจออกมาเรียกร้องนั้น คิดว่าถ้าเราเป็นพนักงานควรจะทำแบบนั้นหรือไม่ หรือเป็นการทำเพื่อพวกพ้องตัวเอง สังคมจะช่วยการบินไทยเอง ส่วนวิกฤตที่เกิดขึ้นจะกระทบกับภาพลักษณ์ของการบินไทย สหภาพฯ จะคุยกับผู้บริหารในเรื่องนี้ หลังผลสอบออกมาแล้ว”นายดำรงค์กล่าว
ส่วนปัญหาประธานกรรมการการบินไทยออกมาระบุว่าจะใช้กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่าง เพื่อผ่าตัดปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่นั้น นายดำรงกล่าวว่า เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างองค์กร เนื่องจากทราบว่าการบินไทยมีปัญหา เพราะเป็นองค์กรขนาดใหญ่และมีหน่วยธุรกิจต่างๆ ซ้ำซ้อนการทำงานจำนวนมากเปรียบเสมือนคนหัวโตขาลีบ จำเป็นต้องแก้ไข หรือยกเลิกธุรกิจซ้ำซ้อนออก เพื่อให้ทำงานคล่องตัวมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี