วอนช่วย2ตายาย
ขาพิการ-ตาบอด
เป็นอยู่ยากลำบาก
เบี้ยคนแก่ไม่พอใช้
วอนช่วยยายวัย 90 ปี ดูแลตาวัยเฉียด 80 ปี พิการแขนขา-ตาบอดมีแค่เบี้ยยังชีพคนชรา ไม่พอค่าใช้จ่าย พบครองรักแท้ ไม่ทอดทิ้งกัน ด้านทนายเมืองคอนจับมือสื่อ เร่งประสานขอความช่วยเหลือภาครัฐ-เอกชน
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายธนาชัย เกตุโรจน์ ประธานทนายความเพื่อประชาชน จ.นครศรีธรรมราช ว่าได้พบสองสามีภรรยาสูงอายุ โดยคุณตา อายุ 78 ปี พิการแขนขาอ่อนแรง เดินไม่ได้ ตาบอดทั้งสองข้าง ส่วนคุณยาย อายุ 90 ปี ต้องคอยปรนนิบัติเลี้ยงดู ซึ่งทั้งสองมีความเป็นอยู่ยากลำบาก อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 55/9 ซอยท่าเรือ 6 หมู่ 10 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวจึงพร้อมด้วยนายธนาชัย เข้าตรวจสอบที่บ้านพักดังกล่าว โดยพบ นายนาวิน จันอ่อน อายุ 78 ปี ส่วนภายในบ้านมีกลิ่นปัสสาวะ ส่งกลิ่นรุนแรงไปทั่วบริเวณบ้านถึงด้านนอก และพบ นางเจิม ช่วยทาศักดิ์ อายุ 90 ปี นั่งอยู่ในบ้าน ก่อนจะออกมาต้อนรับนายธนาชัย
จากการตรวจสอบในบ้าน เบื้องต้นพบข้าวของ เสื้อผ้าเก่าๆ เพียงไม่กี่ชิ้น ฟูกที่นอนบางๆ สำหรับหลับนอน ห่างออกไปเล็กน้อย เป็นห้องทำครัว มีหม้อหุงข้าวเก่าๆ เตาถ่าน กะละมัง ถ้วย จาน 4-5 ใบ มีข้าวปลาอาหารเหลืออยู่
นางเจิม กล่าวว่า เดิมเป็นชาว ต.ปากแพรก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แล้วออกจากบ้านมาทำงาน ก่อนจะพบรักกับนายนาวิน แม้จะอายุห่างกันกว่า 10 ปี แต่ด้วยความรักจึงตกลงอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา จนเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน สามีเริ่มป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินไม่ได้ ดวงตาก็เริ่มมองเห็นไม่ชัด ตนจึงต้องรับภาระเลี้ยงดูปรนนิบัติมาตลอดโดยยึดอาชีพขายไก่ย่างทรงเครื่อง มาเช่าห้องดังกล่าวอาศัยอยู่ มีค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท
“ก่อนหน้านี้เคยมีหลานของสามี ที่ไปอาศัยอยู่ จ.ตรัง มารับไปอยู่ด้วย แต่อยู่ได้ระยะหนึ่ง ก็ต้องขอกลับมาอยู่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งความเป็นอยู่ก็ตามมีตามเกิด มีรายได้จากเงินช่วยเหลือของทางราชการ โดยในส่วนของสามี ได้รับเบี้ยยังชีพคนชรา เดือนละ 700 บาท เบี้ยยังชีพผู้พิการเดือนละ 800 บาท ส่วนตนได้รับเงินเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 1,000 บาท และบัตรคนจนเดือนละ 500 บาท รวมรายได้ที่ได้รับจากทางราชการเดือนละ 3,000 บาท แทบไม่เพียงพอ ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดเป็นพิเศษ จนบางครั้งก็ต้องทนอดมื้อกินมื้อไปตามความจำเป็น” นางเจิม กล่าว
นางเจิม กล่าวอีกว่า ช่วงที่ออกไปหาอาหารที่ตลาดหัวถนนศาลามีชัย โชคดีที่บางครั้งชาวบ้าน จะปันอาหารมาให้ บางคนสงสารก็จะให้เงินมาด้วยครั้ละ 20-30 บาท หรือ 100 บาท หากป่วยไข้ก็จะมาหาหมอท่านหนึ่งที่คลินิกในตลาดหัวถนนศาลามีชัย โดยจะป่วยไข้หนักหนาขนาดไหน คุณหมอ ก็จะเก็บค่ารักษาไม่เกิน 100 บาท เวลานี้รู้สึกห่วงสามี เพราะหากตนเป็นอะไรไปก่อน ไม่รู้ว่าใครจะดูแลสามี เพราะเราสองคนรักกันมาก คงจะดูแลกันไปไม่ทอดทิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นางเจิม บอกเล่าเรื่องราวชีวิตให้นายธนาชัย และผู้สื่อข่าวฟัง ก็ได้คว้ามือนายนาวิน ขึ้นมากำและบีบไว้ ก่อนจะโอบกอด และมีน้ำตาไหลอาบสองแก้ม อย่างน่าซาบซึ้งใจ
ด้าน นายธนาชัย เปิดเผยว่า ความเป็นอยู่ของสองตายาย มีความยากลำบาก แม้จะมีเงินช่วยเหลือที่ได้รับจากภาครัฐ แต่ก็ไม่เพียงพอกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ดี ทางสภาทนายความเพื่อประชาชนฯ ได้ประสานสื่อมวลชนช่วยแจ้งประชาสัมพันธ์ ประสานหน่วยงานรัฐและเอกชน หรือผู้ใจบุญ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือสองตายายรายนี้เพิ่มเติมแล้ว โดยสามารถติดต่อผ่านศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช หมายเลขโทรศัพท์ 082-3333139 , 081-6761299 หรือที่ นายธนาชัย เกตุโรจน์ ทนายความเพื่อประชาชน โทรศัพท์หมายเลข 098-7253179
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี