บิ๊กโจ๊กสั่งไล่เหตุ2ต่างด้าวดับคาสตม. เผยรอส่งกลับอื้อ ‘ปากีสถาน’มากสุด
24 ต.ค.61 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ 2 ผู้ต้องขังชาวต่างด้าวภายในห้องกักตัว สตม. (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ดับคา สตม.! ต่างด้าวหนีเข้าเมืองตาย2ศพในห้องกักตัว) ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.3 บก.สส.สตม. ว่ามีเหตุการณ์เสียชีวิตเมื่อคืนประมาณ 23.00 น. พบศพชาวต่างด้าว 2 คน เป็นชาวกัมพูชา 1 คน และชาวเวียดนาม 1 คน เสียชีวิตในห้องกักตัว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการ คือ ส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการตายยังสถาบันนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ ซึ่งตนได้ประสานไปทางแพทย์ใหญ่เพื่อเร่งรัดการพิสูจน์ศพว่าสาเหตุการตายเกิดจากอะไร พร้อมทั้งประสาน ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ทำการชันสูตรพลิกศพ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ เมื่อเกิดการตายขึ้นอย่างนี้ ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนราชการ โดยต้องไล่ดูว่าสาเหตุการตายเกิดจากอะไร ป่วยตาย หรืออะไร เพราะทราบว่าไม่ได้ทานข้าวมาหลายวัน ซึ่งได้ให้แพทย์ได้ตรวจดูแล้วก็พบว่าไม่ได้ทานข้าว คงต้องรอผลจากแพทย์อีกครั้ง คาดว่าน่าจะช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ก็จะรู้ผล เรื่องการดูแลรักษาพยาบาล เรื่องการช่วยเหลือการให้สวัสดิการ เรามีมาตรการช่วยเหลืออยู่แล้ว เรื่องการออกกำลังกาย การจัดให้มีสันทนาการ การเล่นกีฬา เพราะฉะนั้นในวันนี้เรามีการควบคุมเป็นไปตามกฎหมาย แต่ต้องเป็นไปตามหลักของสหประชาชาติด้วย
รรท.ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า ในส่วนของห้องควบคุม หรือห้องกักของ สตม.ต้องเรียนว่าเรื่องการดูแลความปลอดภัย ไม่มีปัญหาเรื่องการหลบหนี มีความเข้มแข็ง ในส่วนเรื่องของการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นส่วนของผู้ใหญ่ ผู้หญิง เรามีมาตรการในการดูแลรักษาพยาบาล โดยให้แพทย์มีประจำ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอย่างยูเอ็นเอสซีอาร์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ก็มีเจ้าหน้าที่ประจำห้องกัก ซึ่งเป็นไปตามหลักของสหประชาชาติอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยหารือกับทางสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานประจำประเทศไทยถึงการดำเนินการส่งตัวผู้ต้องขังชาวปากีสถานที่อยู่ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกว่า 200 ราย ผลักดันกลับประเทศต้นทาง ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการผลักดันกลับประเทศต้นทางล็อตแรกกว่า 100 ราย ในส่วนของชาวเกาหลีก็ได้ผลักดันกลับประเทศต้นทางไปกว่า 70 รายเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องการผลักดัน เนรเทศ ออกนอกประเทศ วันนี้ในห้องกักของเรามีอยู่เฉพาะในสวนพลู ประมาณ 1,000 กว่าราย ขณะนี้ตนได้พูดคุยหารือกับสถานทูตปากีสถาน ซึ่งมีผู้ต้องกักอยู่เยอะมากพอสมควร ประมาณ 200 กว่าราย ขณะนี้ได้พูดคุยและได้ข้อสรุปแล้ว โดยทางปากีสถาน พร้อมรับไป 100 กว่าราย ขณะนี้เราผลักดันออกไปประมาณ 80 ราย แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในส่วนของเกาหลี ทั้งหมดมีประมาณเกือบ 90 ราย ขณะนี้เราผลักดันออกไปประมาณ 70 กว่ารายแล้ว
“เรื่องการผลักดัน เนรเทศ ส่งกลับ วันนี้เราดำเนินการทั้ง 4 ส่วน ร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตแต่ละประเทศ เรื่องการตอบรับ ส่วนเรื่องของการเดินทางกรณีที่แต่ละประเทศจัดเครื่องบินมารับ เราจะบริการและอำนวยความสะดวกในเรื่องของการส่งกลับ แต่กรณีที่ไม่มีเครื่องบินมารับ เราก็จะอำนวยความสะดวก เรื่องการจองตั๋วเครื่องบินให้ หรือประสานทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้จัดเครื่องบินไปส่งประเทศเพื่อนบ้าน เหล่านี้เป็นความร่วมมือผ่านแดนทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นการควบคุมผู้ต้องขังต่างๆ หลักคือต้องให้เขาอยู่อย่างปลอดภัย มีสวัสดิการที่ดี สะอาด” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว
รายงานข่าว แจ้งว่า สำหรับนายสาคี สัญชาติกัมพูชา หนึ่งในผู้เสียชีวิต รับตัวมาจาก จ.นครปฐม ส่วนนายโรแบต อายุ 72 ปี สัญชาติเวียดนาม รับตัวมาจาก จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทั้ง 2 คนถูกดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ นายโรแบต อายุ 72 ปี สัญชาติเวียดนาม ถูกตำรวจคุมตัวไว้ภายในห้องกักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งที่ผ่านมาทางการไทยได้ประสานไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศต้นทางเพื่อผลักดันกลับประเทศ แต่ทางการเวียดนามปฎิเสธการรับตัว เนื่องจากตรวจสอบสัญชาติปรากฏว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวถือสัญชาติม้ง อย่างไรก็ตามภายหลังการปฎิเสธทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวไม่ยอมที่จะกินข้าว และอาจหมดแรงจนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี