26 ต.ค.61 พ.ต.ท.อติโรจน์ ทาแจ้ง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.พิทักฺษ์ พรหมวงษ์ซ้าย รอง สวป.ฯ นำกำลังตำรวจสายตรวจ191 ตรวจสอบเหตุ หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่ามีชายสติไม่ดีใช้อาวุธมีดบังตอ ฟันหัวสุนัขนอนจมกองเลือดอยู่ในบ้านพัก ซ.จันทร์พัฒนา เขตเทศบาลนครอุดรธานี และอยากให้ตร.ไปควบคุมตัวผู้ป่วยทางจิตที่ก่อเหตุนำส่งรักษาตัว ซึ่งญาติและชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนต่างพากันหวาดกลัว เกรงจะได้อันตรายจากอาการกำเริบหนักขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ควบคุมตัวส่งรักษาอาการ
เมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุพบชายสติไม่ดี อายุประมาณ 40 ปี ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว นั่งก้มหน้าอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของญาติ พูดจาวกวนและไม่รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตำรวจจึงพูดกล่อมพร้อมกับเข้าล็อกตัว โดยการสวมกุญแจมือไว้ด้านหลัง ทราบชื่อ นายเอ นามสมมุติ อายุ 40 ปี ซึ่งญาติระบุว่านายเองเป็นผู้ป่วยทางจิต แต่ขาดการรักษาไม่ได้กินยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง จนมีอาการกำเริบ และใช้อาวุธมีดบังตอฟันหัวและลำคอของสุนัขไทยพันทางชื่อเจ้า “ดอกเบี้ย” สีน้ำตาล เพศผู้ ชื่อเจ้าดอกเบี้ย อายุ 2 ปี ซึ่งเป็นสุนัขของพี่ชายคนโตของผู้ก่อเหตุที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน
เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านก็พบภาพที่น่าสลด เมื่อพบร่างของสุนัขเจ้าดอกเบี้ย นอนจมกองเลือดไหลนองเต็มพื้นบ้าน อาการบาดเจ็บสาหัสหายใจรวยระริน ขณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำส่งเจ้าดอกเบี้ยส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ใกล้ที่สุด แต่เจ้าดอกเบี้ยตายในเวลาต่อมา ตรวจสอบพบบาดแผลถูกมีดบังตอฟันหัวและลำคอ เป็นแผลฉกรรจ์เหวะหวะ เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก ส่วนบังตอที่ใช้ก่อเหตุวางอยู่ที่พื้นบ้านข้างกันกับเจ้าดอกเบี้ย
ส่วน นายสงกรานต์ พงษ์สิทธิศักดิ์ อายุ 47 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพี่น้องต่างบิดา พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน แต่น้องชายมีอาการป่วยทางจิตมานานหลายปี ช่วงแรกที่มีอาการทางจิตก็พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และเดินทางไปรับยาด้วยตนเองได้ตามปกติ แต่ระยะหลังประมาณ 2 เดือน น้องชายตนคงลืมไปพบแพมย์ ทำให้ขาดยา จนอาการกำเริบและก่อเหตุสะเทือนขวัญขึ้น ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนนอนเล่นภายในบ้าน เห็นน้องชายเดินวนไปมาภายในบ้านหลายรอบ ก่อนจะได้ยินเลียงเจ้าดอกเบี้ยร้องเหมือนถูกตี และเห็นน้องชายเอามีดบังตอกระหน่ำฟันที่หัวและลำคอของเจ้าดอกเบี้ย ด้วยความกลัวจึงวิ่งออกมา พร้อมกับปิดประตูบ้านขังน้องชายเอาไว้ในบ้าน ไปหลบอยู่ในบ้านญาติ ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือ เกรงว่าน้องชายอาจจะไปทำร้ายคนอื่น ก่อนตำรวจมาถึง น้องชาย ได้เปิดประตูบ้าน แล้วเดินออกมา พร้อมกับพูดว่าจะเอาหมาไปทำเป็นอาหารกิน
ขณะที่ ร.ต.อ.พิทักฺษ์ พรหมวงษ์ซ้าย เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ขณะมาถึงที่เกิดเหตุ พบชายป่วยทางจิตอยู่ในอาการสงบ พูดจาบอกว่า ตนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทางญาติยืนยันว่าป่วยทางจิต เพราะขาดยารับประทาน ทำให้เกิดอาการคลุ้งคลั่ง และก่อเหตุฟันสุนัขจนเสียชีวิต และจะควบคุมตัว นายนพฯ ไปไว้ที่โรงพักในที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้ก่อเหตุขึ้นอีก โดยจะให้ญาตินำหลักฐานประวัติการรักษาตัวมาให้ตำรวจตรวจสอบให้แน่ชัด ก่อนที่จะนำตัวส่งไปแผนกจิตเวชที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ทำการรักษาตัวต่อไป เรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้เจ้าหน้าที่จะมาระงับเหตุและนำตัวไปรักษา แต่สุนัขที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ตายเสียแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี