หลั่งน้ำตายันบริสุทธิ์! ‘บูม-ครอบครัวจารวิจิต’แถลงปัดโกงบิทคอยน์
29 ต.ค.61 นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ “บูม” นักแสดงหนุ่ม น้องชายนายปริญญา จารวิจิต ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและโกงบิทคอยน์นายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา นักลงทุนชาวฟินแลนด์ พร้อมพี่สาวและพี่ชาย เปิดแถลงข่าวหลังจากถูกทางตำรวจจับกุมทำให้ถูกถอดจากการเป็นนักแสดงละครซีรีย์ และยกเลิกการเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งหมด
นายจิรัชพิสิษฐ์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ตำรวจก็มาแจ้งว่าพ่อแม่ตนฟอกเงิน ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเกิดแม่ของแม่ ตนกังวลว่าอาจไม่ได้ประกันตัว ในฐานะลูกเราทำอะไรไม่ได้ ตนเชื่อในกระบวนการยุติธรรม และจะต่อสู้คดี ไม่หนีอย่างแน่นอน
“ในความทรงจำตั้งแต่เล็กจนโตเห็นพ่อแม่ เป็นคนทำงานหนักมาโดยตลอด ตั้งแต่ค้าขาย มาถึงทำร้านอาหารจนมีชื่อเสียง และมีทรัพย์สินมาก่อนที่จะมีเรื่องนายเออาร์นี ส่วนเงินที่โอนเข้ามาในบัญชีนั้น เข้าใจว่าเป็นเงินที่เกิดจากการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ที่พี่ชายคือนายปริญญา เป็นผู้ดูแล” นายจิรัชพิสิษฐ์ กล่าว
ด้าน น.ส.สุพิชย์ฌา จารวิจิต พี่สาวนายจิรัชพิสิษฐ์ ยืนยันว่า ไม่เคยเล่นหุ้น จึงไม่ใช่เจ้าแม่ตลาดหุ้นตามที่เป็นข่าว ขอร้องสื่อเสนอข้อมูลตามความเป็นจริง ครอบครัวเราแต่ละคนไม่เคยมีประวัติการทำผิดมาก่อน มาวันนี้ตนถูกเรียกว่าเป็นนักต้มตุ๋น ทั้งที่ไม่รู้จักกับบุคคลเหล่านั้นเลย ยืนยันไม่เคยคิดหนี ที่ผ่านมาไปรายงานตัวทุกนัด
“เตี่ยกับแม่ทำงานหนักมาตลอด จนสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักใน จ.ชลบุรี ตอนนี้ถูกตราหน้าว่าเป็นคนโกง ตอนนี้ตรอมใจมาก เมื่อมาเจอเหตุการณ์ที่ลูกทุกคนต้องเดินขึ้น ลงศาล เตี่ยอายุ 80 ปี จะมาฟอกเงินเหรอ แบงก์รู้อยู่แล้วว่าครอบครัวเรามีเงิน” น.ส.สุพิชย์ฌา กล่าวทั้งน้ำตา
ส่วนนายธนสิทธิ์ จารวิจิต พี่ชายนายจิรัชพิสิษฐ์ กล่าวว่า ช่วงแรกตนเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ไม่ถูกออกหมายจับ และเพิ่งได้รับหมายเรียกให้ไปที่กองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินในวันที่ 30 ต.ค.นี้ ยืนยันว่าเราไม่มีพฤติกรรมหลบหนี พ่อแม่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงนายเออาร์นี อยากให้สื่อมวลชนเกาะติดเรื่องนี้ เราไม่ต้องการให้พลังเงินของนายเออาร์นี สร้างผลกระทบเสียหายต่อเรา ครอบครัวจารวิจิตรไม่ใช่อาชญากร เราทำธุรกิจปกติทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่นายปริญญา โอนเงินเข้ามาในบัญชีของคนในครอบครัว เป็นเรื่องของเงินที่ทำธุรกิจ และโดยส่วนตัวยอมรับว่ามีการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเส้นทางการเงินจะมีการชี้แจงในชั้นศาลเท่านั้น
“ที่ออกมาแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวจารวิจิตร ซึ่งคุณพ่อทำงานหนักมาตลอด และภัตตาคารของครอบครัวเปิดมาเป็นเวลากว่า 50 ปี เป็นที่รู้จักกันดี การที่ครอบครัวไม่ออกมาแถลงก่อนหน้านี้ เพราะคนที่เป็นตัวการหลักและรู้เรื่องนี้ดี คือ นายปริญญา พี่ชายคนโตที่ทำธุรกิจกับนายเออาร์นี จึงอยากให้เป็นคนแถลงข่าว แต่ก็หลบหนีไปสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้ประสานงานเพื่อเข้ามอบตัวกับตำรวจ” นายธนสิทธิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี