4 พ.ย.61 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้มีกรรมกรชาวเขมรเข็นรถเข็นลากเลื่อนบรรทุกกระสอบเสื้อผ้ามือสองข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยเพื่อส่งขายให้พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นจำนวนมากนับร้อยๆคัน ทำให้บริเวณจุดตรวจศุลกากร ด่านพรมแดนคลองลึก คลาคล่ำและอัดแน่นไปด้วยรถเข็นบรรทุกเสื้อผ้ามือสอง ที่รอคิวเข้าชั่งน้ำหนักเพื่อเสียภาษีนำเข้าเสื้อผ้ามือสอง
โดยนายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ ได้สั่งการให้นายประทีป สมมัง หัวหน้าจุดตรวจศุลกากร ด่านพรมแดนคลองลึก ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เข้มงวดกวดขันและตรวจค้นกระสอบเสื้อผ้ามือสอง ที่กรรมกรชาวเขมรบรรทุกใส่รถเข็นลากเลื่อนนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อป้องกันการลักลอบซุกซ่อนสินค้าเถื่อนและสิ่งผิดกฎหมายซุกมาในกระสอบเสื้อผ้ามือสองเข้ามาในประเทศไทย พร้อมทั้งให้มีการชั่งน้ำหนักและเก็บภาษีนำเข้าเสื้อผ้ามือสองอย่างเข้มงวด โดยกำชับให้มีการออกใบเสร็จรับเงินค่าภาษีนำเข้าอย่างถูกต้อง เพื่อความโปร่งใสและซื่อสัตย์สุจริตของเจ้าหน้าที่
ส่วนบรรยากาศในตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นตลาดค้าปลีกและค้าส่งเสื้อผ้ามือสองใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ตั้งอยู่บริเวณชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวที่ตลาดโรงเกลือวันละนับหมื่นคน และยังมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลืออีกวันละกว่า 8,000 คน ดังนั้นตลาดโรงเกลือจึงนับเป็นตลาดการค้าชายแดนที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุด ติดอันดับสถานที่น่าท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยมีเงินหมุนเวียนจากการค้าขายในตลาดโรงเกลือ วันละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ต่อวัน
โดยเฉพาะหน้าหนาวซึ่งเริ่มจากเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป จะถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของการค้าเสื้อกันหนาวมือสองของตลาดโรงเกลือ ซึ่งหลังจากลมหนาวเริ่มพัดโชยเข้าประเทศไทย จึงทำให้บรรยากาศการค้าขายเสื้อผ้ามือสองในตลาดโรงเกลือเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรที่เข้ามาค้าขายเสื้อผ้ามือสองในตลาดโรงเกลือ กว่า 2,000 ร้านค้า ได้เริ่มนำเสื้อกันหนาวมือสองออกมาวางและแขวนจำหน่าย โดยมีพ่อค้าแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวไทยจากทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะจากภาคเหนือและภาคอีสานนับร้อยๆราย ต่างเดินทางมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสองจากตลาดโรงเกลือ เพื่อนำไปจำหน่ายตามตลาดนัดต่างๆทั่วประเทศ ทำให้การค้าเสื้อกันหนาวมือสองในตลาดโรงเกลือ เริ่มคึกคักตั้งแต่ต้นฤดูหนาว เนื่องจากชาวเขมรเชื่อว่าปีนี้ประเทศไทยจะหนาวนานกว่าทุกปี ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมร ต่างแห่สั่งเสื้อกันหนาวมือสองจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาเพื่อกักตุนไว้ขายให้นักท่องเที่ยวในตลาดโรงเกลือกันอย่างคึกคัก
นอกจากนี้พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ได้มีการนำเสื้อกันหนาวมือสองที่ค้างสต็อกจากปีที่แล้ว ออกมาเปิดขายในราคาถูก สนนราคาตัวละประมาณ 20-60 บาท เพื่อเป็นการระบายสินค้าค้างสต็อก โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเริ่มมาหาซื้อเสื้อกันหนาวมือสองในตลาดโรงเกลือกันเพิ่มมากขึ้น
นางสุ เพีย อายุ 40 ปี แม่ค้าชาวกัมพูชาในตลาดโรงเกลือ เผยว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา การค้าเสื้อกันหนาวมือสองค่อนข้างเงียบเหงา แต่ในปีนี้คาดว่าอากาศจะหนาวนาน ทำให้การค้าขายเสื้อผ้ามือสองเริ่มขายดีมีลูกค้าโทรมาสั่งจองกันเยอะ และมีหลายราคาตั้งแต่เสื้อกันหนาวมือสองของเด็ก ราคาคัดเริ่มต้นตัวละ 25-40 บาท เท่านั้น อยากให้นักท่องเที่ยวมาเลือกซื้อ เพราะมีสินค้าให้เยอะราคาถูกและคุณภาพดี
ทางด้านนายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ปีนี้คาดว่าประเทศไทยจะมีอากาศที่หนาวนานกว่าทุกปี ดังนั้นอากาศหนาวเป็นคุณประโยชน์ต่อการค้าเสื้อกันหนาวมือสองที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นอย่างมาก และการค้าเสื้อกันหนาวมือสองสมัยนี้ซึ่งเป็นยุค 4.0 พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรไม่เพียงแต่เปิดขายหน้าร้าน แต่ยังได้มีการพัฒนาการค้าด้วยเทคโนโลยี่ โดยมีการค้าขายเสื้อกันหนาวมือสองกันทางอินเตอร์เน็ต แล้วใช้วิธีการส่งสินค้าให้ลูกค้าทางระบบขนส่ง ที่ปัจจุบันมีหลากหลายบริษัทฯและสามารถส่งสินค้าได้รวดเร็ว ทันใจผู้ซื้อเป็นอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี