ชั่วได้ใจ! แม่พาลูกสาววัย 20 แจ้งตำรวจจับพ่อบังเกิดเกล้าข่มขืนมานานหลายปีจนตั้งท้องแล้วพาไปทำแท้งถึงสองครั้ง อ้างเฉยลูกยินยอม ไม่ได้บังคับแถมยังมีหน้ามาขอความเป็นธรรมให้ตัวเองว่าลูกผิดสัญญาที่จะไม่เปิดปากเล่าให้ใครฟัง จนกว่าจะตายจากกัน

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ชุมพรว่า นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี พาลูกสาวชื่อ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เข้าแจ้งความต่อร.ต.อ.วุฒิพงศ์ ทองมาก รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินคดีกับอดีตสามีอายุ 43 ปี พ่อแท้ๆก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราน.ส.บี (นามสมมติ) ลูกสาวตัวเองมานานหลายปี กระทั่งตั้งครรภ์ แล้วพ่อกับย่าพาไปทำแท้งถึง 2 ครั้ง

จากการสอบปากคำนางเอ(นามสมมติ)เบื้องต้นเผยว่าหลังตนกับอดีตสามีแยกทางกันและตนไปมีสามีใหม่อยู่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนน.ส.บี(นามสมมติ)ลูกสาวอยู่กับพ่อที่ จ.ชุมพร ต่อมาปี 2558ตนต้องคดีอาญาศาลพิพากษาจำคุก3ปีและเพิ่งพ้นโทษออกมาได้2เดือนต่อมา น.ส.บีหนีมาอยู่กับตนที่ อ.บางสะพานพร้อมเล่าให้ฟังว่าทนพฤติกรรมผู้เป็นพ่อไม่ไหวจึงพาลูกสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อบังเกิดเกล้า

หลังรับแจ้งความแล้ว พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพรสั่งการให้พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพรนำกำลังชุดสายสืบพร้อมหมายจับศาลจังหวัดชุมพรเข้าจับกุมนายพรชัย หยีตน้อย อายุ 43 ปี อาชีพรับซื้อทุเรียนขายให้กับล้งส่งออกต่างประเทศอยู่บ้านเลขที่ 8/8 หมู่ 4 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร พ่อของ น.ส.บีซึ่งนายพรชัยยอมให้จับกุมแต่โดยดี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาทำผิด ฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

จากนั้นตำรวจคุมตัวนายพรชัยมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชุมพรโดยนายพรชัยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่อ้างว่าตนไม่ได้ใช้กำลังบังคับแต่อย่างใด เพราะลูกสาวสมยอมเอง และเคยพาลูกไปทำแท้งเพียง 1 ครั้ง ที่คลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร ส่วนครั้งหลัง ตนไม่รู้ว่าใครพาไป อย่างไรก็ดี นายพรชัย ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนขอความเป็นธรรมให้ตัวเองด้วย ในส่วนที่ตนทำผิดก็ยอมรับ แต่ทั้งนี้ลูกสาวก็ต้องยอมรับผิดด้วย ที่ผิดสัญญาว่าจะไม่ยอมปริปากบอกใคร ในเรื่องที่มีอะไรกับตนเอง จนกว่าจะตายจากกัน

หลังสอบปากคำเสร็จตำรวจนำตัวส่งพนักงานสอบสวนตามกฎหมาย และควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในชั้นต่อไป