สศก. เกาะติดผลการขับเคลื่อนการพัฒนาอาชีพชาวสวนยาวรายย่อยเพื่อความยั่งยืน เพื่อลดพื้นที่ปลูกยาง ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน เผยเกษตรกร 65 จังหวัด เข้าร่วมกว่า 1.4 หมื่นราย โค่นต้นยางไปแล้วกว่า 6.9 หมื่นไร่ แนะรัฐปรับลดหลักเกณฑ์ สร้างแรงจูงใจเกษตรกรร่วมโครงการเพิ่มขึ้น
นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามโครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรตัดโค่นต้นยาง ในพื้นที่ 65 จังหวัด เพื่อลดพื้นที่ปลูกยางพาราและปริมาณผลผลิตที่จะเข้าสู่ระบบ อีกทั้งลดความเสี่ยงผลกระทบจากราคายางตกต่ำและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยาง มีการสนับสนุนเงินอุดหนุนค่าตัดโค่นต้นยางให้เกษตรกร 2 งวด ได้แก่ งวดที่ 1 ไร่ละ 4,000 บาท และ งวดที่ 2 ไร่ละ 6,000 บาท นอกจากนี้ ยังส่งเสริมด้านการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่เพื่อทดแทนการทำอาชีพชาวสวนยาง โดยการจัดอบรมให้เกษตรกรเพื่อพัฒนาอาชีพด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง หลังการตัดโค่นต้นยาง
ในการนี้ สศก. ได้ทำการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการ พบว่า โครงการได้เริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 จนถึง 30 กันยายน 2561มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 14,623 ราย พื้นที่เข้าร่วมโครงการ 93,062 ไร่ เกษตรกรตัดโค่นต้นยางแล้วเสร็จ 13,030 ราย ในพื้นที่ 69,080 ไร่ (เป้าหมาย 30,000ราย พื้นที่ 150,000 ไร่)เกษตรกรร้อยละ 37 ตัดสินใจนำพื้นที่เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากเห็นว่า ต้นยางไม่สมบูรณ์ ให้ผลผลิตน้อย ส่วนร้อยละ 28 เห็นว่าราคายางพาราตกต่ำ และร้อยละ 23 ต้องการปรับเปลี่ยนอาชีพ ในขณะที่ร้อยละ 12 ขาดแรงงานในการดูแลสวนยาง
ขณะนี้ เกษตรกรร้อยละ 74 ได้รับเงินอุดหนุนค่าตัดโค่นต้นยาง งวดที่ 1 แล้ว และเข้ารับการอบรมการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่เพื่อทดแทนการทำอาชีพชาวสวนยาง โดยพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มีความสนใจด้านการปลูกไม้ผล/ไม้ยืนต้น พืชไร่ และพืชผักสวนครัว ตามลำดับ และงวดที่ 2 เกษตรกรร้อยละ 61 ได้รับเงินอุดหนุนค่าตัดโค่นต้นยางเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยและกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เร่งดำเนินการให้เกษตรกรได้รับเงินอุดหนุนให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
สำหรับภาพรวม เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อภาพรวมโครงการระดับมาก และยังคงต้องการให้ภาครัฐขยายโครงการและสนับสนุนเงินอุดหนุนรวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเกษตรกรให้ข้อคิดเห็นว่า ภาครัฐควรปรับลดหลักเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เกษตรกรที่มีพื้นที่สวนยางมากกว่า 50 ไร่ และกำหนดอายุของยางในการเข้าร่วมโครงการเป็นยางที่เปิดกรีดแล้วเท่านั้น ซึ่งหากปรับลดหลักเกณฑ์ลง เกษตรกรจะให้ความสนใจในการเข้าร่วมโครงการมากยิ่งขึ้นรวมทั้งต้องการให้จัดหาตลาดเพื่อรองรับผลผลิตจากเกษตรกรที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนอาชีพเพิ่มเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี