กรมการพัฒนาชุมชน เปิดทริปเส้นทางท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP ชมวิถีชีวิตริมฝั่งโขง 7 หมู่บ้าน 4 จังหวัด
นายไพบูลย์ บุรณสันติ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Village) รวม 8 เส้นทางกระจายตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ เป็นหมู่บ้านที่กรมการพัฒนาชุมชนได้เข้าไปสนับสนุนงบประมาณให้กับจังหวัดเพื่อดำเนินการพัฒนาทั้งในด้านความเข้มแข็งของผู้นำชุมชน การส่งเสริมให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชน ด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์ การพัฒนาพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน การค้นหาอัตลักษณ์ของชุมชน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น รวมถึงอาหารพื้นถิ่น จนกระทั่งชุมชนเหล่านี้เกิดความเข้มแข็งและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากถิ่นอื่น สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชม พร้อมจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างรายได้และความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก ทั้งยังก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์หมู่บ้าน OTOP ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น จึงได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร OTOP Village เส้นทางที่ 7 วิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง จำนวน 7 หมู่บ้าน ใน 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร และ นครพนม โดยแต่ละหมู่บ้านล้วนมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้ 1.หมู่บ้านตามุย จ.อุบลราชธานี ชุมชนเล็กๆริมแม่น้ำโขง ที่มีการร่วมแรงอย่างเข้มแข็งของคนในชุมชน สร้างสรรค์และพัฒนาชุมชนรอบด้านเพื่อพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพ ได้แก่ ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติจากกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านตามุย เสื่อเตยจากกลุ่มงานประดิษฐ์บ้านตามุย ดอกกระเจียว จากกลุ่มอาหารบ้านตามุยสำหรับกิจกรรม เมื่อมาเยือนบ้านตามุยที่ห้ามพลาดคือการลงเรือล่องแม่น้ำโขงชมความมหัศจรรย์ของ “เก้าพันโบก” และทิวทัศน์สองฝั่งโขงอันสวยงาม
2.หมู่บ้านสองคอน จ.อุบลราชธานี ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำโขง ในฤดูน้ำหลากกระแสน้ำโขงจะไหลเป็นสองทางชาวบ้านเรียกว่า "คอนปากบ้อง" กับ "คอนสิ่ว" จุดเด่นของที่นี่คือผลิตภัณฑ์ OTOP ทั้งงานจักสาน ทอผ้า และที่ห้ามพลาดคือแหล่งท่องเที่ยว สามพันโบก หรือแกรนด์แคนยอนเมืองไทย โดยนักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือจากหาดสลึงที่บ้านสองคอน ล่องตามลำน้ำโขงระยะทาง 4 กม.ระหว่างทางจะผ่าน "ปากบ้อง" จุดแคบที่สุดของแม่น้ำโขง ซึ่งมีความกว้างเพียง 56 ม. และ "หินหัวพะเนียง" เป็นแก่งหินกลางแม่น้ำที่ทำให้แม่น้ำโขงแยกออกเป็นสองสาย หรือสองคอน
3.หมู่บ้านโพนขวาว จ.อำนาจเจริญ มีอาชีพที่มีลักษณะพิเศษและทำติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคนคือ การทำน้ำตาลจากต้นตาล (ตาลโตนด) สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในช่วงฤดูหนาวเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีอาชีพเสริมผลิตภัณฑ์ส่งออกคือ การนำเศษผ้ามาเย็บติดต่อกันเพื่อทำเป็นผ้าห่มกันหนาว ซึ่งได้รับความนิยมมาก เพราะคุณภาพดีและราคาถูกมาก และการทำหมอนฟักทอง หมอนปักจำหน่าย นอกจากนี้ ยังมีวัดบ้านโพนขวาว ซึ่งมีหอไตรเก็บพระไตรปิฎกที่มีการสร้างด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
4.หมู่บ้านหนองหล่ม หมู่ที่3 ต.โพธิ์ไทร อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว สามารถล่องเรือชมทัศนียภาพสองฝั่งโขง อีกทั้งชมการเกษตรบนเกาะแก่ง กลางแม่น้ำโขง ชมวิถีชีวิตชุมชนชาวบ้านพร้อมต้อนรับด้วยอัธยาศัยอันดีตามวิถีผู้ไทยที่อบอุ่น การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP เช่น ผ้าห่มทอมือ ข้าวกล้อง เสื้อเย็บมือ และยามรุ่งเช้าร่วมทำบุญตักบาตรรับบรรยากาศริมโขง รวมถึงการเที่ยวชม หรือปีนเขา ณ แหล่งท่องเที่ยวภูผาเทิบ ชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไหว้พระพุทธรูปที่เก่าแก่อายุ 1,200 ปี
5.หมู่บ้านภู จ.มุกดาหารบ้านภู หมู่ที่ 1,2 ต.บ้านเป้า อ.หนองสูง เป็นหนึ่งหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจ.มุกดาหาร ปี 2549ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย 3 ปีซ้อน อีกทั้งได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นทางด้านการท่องเที่ยวมากมาย อาชีพหลัก คือการทำนา และปลูกพืชผักสวนครัวหลังฤดูเก็บเกี่ยว การแต่งกายที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนคือ ผู้หญิงนุ่งซิ่นทิว ใส่เสื้อเย็บมือย้อมครามแถบชายขอบแดง ห่มผ้าสไบพาดไหล่ซ้าย ผู้หญิงในหมู่บ้านภู จึงต้องทอผ้าเก่ง โดยเฉพาะการทอผ้าไหม และผ้าหมักโคลน ผ้าฝ้าย ที่สืบทอดภูมิปัญญาของท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งขึ้นชื่อและสร้างรายได้เสริมเป็นอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี