12 พ.ย.61 จากกรณี 3 พ่อแม่ลูก นายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ์ อายุ 31 ปี น.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี อายุ 26 ปี ภรรยา และ ด.ญ.แดง (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี ลูกสาว นอนหมดสติอยู่ภายในรถยนต์เก๋งสีขาว ทะเบียน 2 กก กรุงเทพมหานคร บนถนนทางด่วนบูรพาวิถี กม.39+800 ขาเข้าชลบุรี หมู่ 9 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เหตุเกิดเมื่อ 11 พ.ย.61 โดยนายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ์ คนขับ มีอาการตื่นลืมตาแต่อยู่ในอาการสั่นเทา เกร็ง และพยายามจะกดปุ่มเพื่อลดกระจกรถลง ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 5 นาที จึงสามารถเอากระจกลงได้ น.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี ภรรยา นอนหมดสติบนที่นั่งข้างคนขับอยู่ในอาการตาค้าง น้ำลายฟูมปาก ส่วนเบาะหลัง ด.ญ.แดง (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี ลูกสาว นอนหมดสติอยู่ในอาการชักเกร็ง ลิ้นแข็งและร้องไห้ตลอดเวลาจากนั้นก็นอนแน่นิ่งไป จนท.ตำรวจ สภ.บางปะกง พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกง เข้าให้การช่วยเหลือโดยใช้เครื่องช่วยหายใจและรีบนำส่งโรงพยาบาลบางปะกงในทันที
และต่อมา รพ.บางปะกง ได้ประสานมายัง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีเครื่องมือครบครันในการรักษาผู้ป่วย จึงได้นำตัวผู้ป่วยทั้ง 3 คน ส่งมารักษายัง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ โดยในเบื้องต้นแพทย์ได้ตรวจดูอาการผู้ป่วยแล้ว น่าจะเกิดจากการสูดดมแก๊สจากท่อไอเสียที่เข้าไปในรถยนต์เป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดอาการหมดสติดังกล่าว
จึงให้การรักษาในเบื้องต้นก่อนนำเข้ารักษาด้วยออกซิเจนความดันสูง ( Hyper baric Oxygen Therapy / HBOT ) เป็นการบำบัดด้วยวิธีหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100 % ภายในห้องปรับบรรยากาศสูง ( Hyperbaric Chamber ) หรือห้องแชมเบอร์ เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายของผู้ป่วยได้มากกว่าภาวะปกติที่ความดันบรรยากาศปกติหลายเท่า การรักษานี้เป็น การรักษาเสริมหรือเพิ่มเติม อีกวิธีหนึ่งที่ใช้ร่วมกับการรักษาทางอายุรกรรมและศัลยกรรม เป็นการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายใช้เวลาในการรักษาภายในห้องปรับบรรยากาศ (ห้องแชมเบอร์) ประมาณ 2 ชม. ล่าสุดอาการของ 3 พ่อแม่ลูกพ้นขีดอันตรายแล้ว
นายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ ได้กล่าวว่า อยากให้เคสของตัวเองเป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้ใช้รถยนต์ ส่วนสาเหตุคงต้องให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องค้นหากันต่อไป และยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าอีกว่า ตนเองได้กลิ่นลักษณะคล้ายควันจากท่อไอเสียภายในรถ แต่ก็ยังฝืนขับรถมาเรื่อยๆ เกือบ 1 ชม. เมื่อรู้สึกตัวว่าจะไม่ไหวแล้วจึงได้จอดรถเข้าข้างทาง และสะกิดเรียกภรรยาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ จากนั้นตนเองก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
ด้าน น.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี ภรรยาได้กล่าวว่าในขณะเกิดเหตุได้กลิ่นคล้ายกลิ่นก๊าซไม่ทราบว่าก๊าซอะไร ทำให้เหมือนขาดอากาศหายใจจนหมดสติไปโดยไม่รู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีมานอนอยู่โรงพยาบาลบางปะกงแล้ว ส่วนลูกสาวนั้นนอนหลับอยู่ก่อนแล้วที่เบาะด้านหลัง นับว่ายังโชคดีที่สามียังมีสติ จึงได้ขับรถเข้าข้างทางก่อน มิเช่นนั้นไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นางศรีไพร สุขสมศักดิ์ อายุ 36 ญาติของผู้ป่วยกล่าวว่า หลังทราบข่าวจึงได้เดินทางมาจากจากกรุงเทพฯ เพื่อมาดูอาการตนเองรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อทราบข่าวว่าลูกชายขับรถและจอดข้างทางโดยไม่ได้สติ จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย และต้องขอขอบคุณ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วย 3 พ่อแม่ลูกเป็นอย่างดีในครั้งนี้ด้วย
นายแพทย์ธวัชชัย ศานติพัฒน์ แพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว โดยวันที่เกิดเหตุ ผู้ป่วยหญิง อายุ 26 ปี มีอาการชัก หมดสติ และได้สติมา ก็คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการอ่อนแรง, ผู้ป่วยชาย อายุ 31 ปี คลื่นไส้ อาเจียน และผู้ป่วยเด็กหญิง อายุ 7 ปี หมดสติในรถทั้ง 3 คน ถูกนำส่ง รพ.บางปะกง ประมาณ 12.00 น. ของวันเกิดเหตุ (11 พ.ย.61) ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบ สารคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ไปจับเม็ดเลือด ทำให้เลือดไปส่งตามร่างกายไม่ได้ ผู้ป่วยจึงหมดสติ จากการตรวจอาการล่าสุดเมื่อ 12.00 น. ของวันนี้ (12 พ.ย.61) ทุกคนรู้สึกตัวดี รับประทานอาหารได้ แพทย์จะประเมินอาการอีกครั้ง ผู้ป่วยชายน่าจะกลับบ้านได้วันนี้ ส่วนฝ่ายหญิงน่าจะต้องเป็นพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำสำหรับใครก็ตามถ้าสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ควรจะต้องถึงมือแพทย์ภายใน 6 ชั่วโมง แพทย์จะมีการตรวจผ่านห้องความดันบรรยากาศสูง เป็นเครื่องตรวจสอบโดยเฉพาะ จะสามารถไล่ความดันคาร์บอนมอนอกไซด์ออกจากร่างกายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี