ลุยรื้อ13รีสอร์ท‘รุกทะเล’ระยอง ผงะ!น้ำเสียสิ่งปฏิกูลถูกปล่อยทิ้งน้ำ
จากกรณีนายทุนหัวใสสร้างรีสอร์ทบนแพ หลังเขื่อนหินกันคลื่นหน้าทะเลเกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ห่างจากฝั่งบ้านเพประมาณ 500 เมตร สร้างเป็นห้องพักให้เช่าพร้อมร้านอาหารบริการ ทิ้งน้ำเสียจากการซักล้าง และน้ำเสียจากห้องน้ำสิ่งปฏิกูลถูกทิ้งลงทะเล โดยไม่มีบ่อกักเก็บ สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ทางทะเล ท้าทายอำนาจรัฐเปิดเฟซบุ๊คขายนักท่องเที่ยวโจ๋งครึ่ม หัวละ 1,590 บาท กระทั่งนายธีระวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัด(รองผวจ.) ระยอง ประสานเจ้าท่าภูมิภาค จ.ระยอง ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่1 และกรมประมง เข้าตรวจสอบและรื้อถอน
ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ระยอง ว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา นายธีระวัฒน์ สุดสุข รองผวจ.ระยอง พร้อมด้วยนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 , นายประเวศน์ สุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าทา สาขาระยอง , นายสงกรานต์ แสงจันทร์ ประมงจังหวัดระยอง และนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านเพ ร่วมประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ก่อนสรุปว่ารีสอร์ทที่สร้างรุกทะเลหลังเขื่อนหินมีทั้งหมด 13 แห่ง เป็นการก่อสร้างบุกรุกทั้งหมด และผิดกฎหมายมาตรา 17 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ทำหนังสือปิดประกาศบนแพที่พักทั้ง 13 แห่ง เพื่อให้รื้อถอนภายใน 30 วัน
ต่อมา นายธีระวัฒน์ พร้อมคณะ และกำลังเจ้าหน้าที่ ได้นั่งเรือจากท้าเรือเทศบาลตำบลเพ เดินทางไปยังบริเวณแพรีสอร์ท เมื่อเดินทางไปถึง พบว่า รีสอร์ท 12 แห่งปิดตัวเงียบ เหลือเพียง แพป้าติ๊ด ที่มีการก่อสร้างด้วยไม้ไผ่อย่างสวยงาม รวมทั้งหมด 10 ห้องพัก และมีลานห้องอาหาร เข้าไปตรวจสอบพบมีพนักงานยังคงทำงานกันอยู่ภายในรีสอร์ท สำหรับห้องพักมีการตกแต่งด้วยไม้ไผ่สานมีห้องน้ำในตัวอย่างสวยงาม เมื่อตรวจสอบห้องน้ำพบว่าไม่มีบ่อกักเก็บโดยปล่อยทิ้งลงไปในทะเล นอกจากนี้น้ำซักล้างและทำครัวถูกทิ้งลงทะเลเช่นกัน จากการสอบถามพนักงานทราบว่าเจ้าของแพรีสอร์ทกำลังเดินทางกลับมา
ต่อมานายไพโรจน์ คร้ามสมอ อายุ 41 ปี เจ้าของแพรีสอร์ทป้าติ๊ด ได้เดินทางมายังแพ พร้อมกับรับฟังคำสั่งของทางเจ้าหน้าที่มาแจ้งปิดประกาศ โดย เปิดเผยว่า เพิ่งมาเปิดเป็นห้องพักและปรับปรุงแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ได้เปิดเป็นห้องพักเล็ก และ เลี้ยงปลาในกระชัง มาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว โดยไม่คิดว่าจะเป็นการผิดกฎหมาย ซึ่งก็ยอมรับผิดและยินยอมรื้อออกตามคำสั่ง
ด้านนายธีระวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ แพห้องพักทั้ง 13แห่ง ถือว่าผิดตามมาตรา 17 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งมีคำสั่งให้รื้อภายใน 30 วัน หากยังไม่มีการรื้อ ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการรื้อถอนเอง
ต่อมาเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้ประกอบการทั้ง 13 ราย กับพนักงานสอบสวน สภ.เพ จ.ระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับการบุกรุกและทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเล ความผิดตามมาตรา 17 พรบ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี