สช.เผยตรวจสอบเบื้องต้น โรงเรียนเอกชนในปัตตานียึดบัตรเอทีเอ็มครูจริง อ้างครูยินยอม ชี้แม้เป็นแนวทางบริหารภายใน แต่ขัดระเบียบ ศธ.พร้อมสั่งให้ทำถูกต้อง
ความคืบหน้ากรณีฝ่ายความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจสอบโรงเรียนเอกชนใน จ.ปัตตานี พร้อมตรวจยึดบัตรเอทีเอ็ม ที่ใช้คู่กับบัญชีเงินเดือนของครูในโรงเรียนได้ 23 ใบ เป็นของครู 23 คน และพบว่าถูกทางโรงเรียนยึดเอาไว้ จากนั้นเบิกจ่ายเงินเดือนให้ครูต่ำกว่ายอดจริงที่รัฐบาลอุดหนุนช่วยเหลือให้แก่ครูโรงเรียนเอกชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้มีรายรับไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งเบี้ยเสี่ยงภัยอีก 2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในปีก่อนๆพบว่าผู้บริหารโรงเรียนจ่ายเงินเดือนครูไม่ครบ มีการหักไว้ประมาณครึ่งหนึ่ง อ้างว่านำไปใช้ในกิจการอื่นของโรงเรียน หรือนำไปจ้างครูเพิ่มเพราะครูไม่เพียงพอนั้น
ล่าสุดวันนี้(14 พ.ย.61) นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) กล่าวว่า สช.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า โรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนในระบบ ประเภทสอนศาสนาอิสลามควบคู่วิชาสามัญ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี กรณีดังกล่าวโรงเรียนให้การยอมรับว่าได้ยึดบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารของครูสอนวิชาสามัญ 26 คน เพื่อความสะดวกในการเบิกจ่ายเงินเดือนให้ครูในอัตราคนละ 7,000 บาท ส่วนต่างอีก 8,000 บาท ได้เอาไปเฉลี่ยเพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับครูสอนศาสนาอีก 28 คน โดยอ้างว่าครูผู้สอนวิชาสามัญทุกคนยินยอม
ส่วนการจ่ายเบี้ยเสี่ยงภัยเดือนละ 2,500 บาท โรงเรียนแจ้งว่าได้จ่ายให้ครูที่มีสิทธิครบถ้วนตามที่ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชน เป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล พ.ศ. 2558 กำหนด
“ในระเบียบ ศธ.ไม่ได้กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจ่ายเงินเดือนครูโดยตรง แต่ให้โรงเรียนจ่ายจากเงินอุดหนุนรายบุคคล ซึ่งเงินเดือนครูดังกล่าวต้องจ่ายเป็นลำดับแรก ในอัตราคนละ 15,000 บาทต่อเดือน ส่วนที่เหลือนำไปใช้จ่ายเป็นค่าพัฒนาสื่อการเรียนการสอน ครุภัณฑ์ พัฒนาอาคารสถานที่ และการดำเนินการของโรงเรียน ซึ่งในการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของโรงเรียน ปรากฏว่าโรงเรียนมิได้เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาจากผู้ปกครอง โดยได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคล จำนวน 4,607,976 บาทต่อปี ถ้าจ่ายเงินครูสอนวิชาสามัญ 26 คน ตามวุฒิการศึกษาที่ทางราชการกำหนด คนละ 15,000 บาท เป็นเงิน4,680,000 บาทต่อปี” นายชลำ กล่าว
นายชลำ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวแม้จะเป็นการแก้ปัญหาในการบริหารเงินของโรงเรียน แต่ถือว่าไม่เป็นไปตามระเบียบ ซึ่ง สช. จะสั่งการให้โรงเรียนแก้ไขให้ถูกต้องตามระเบียบ โดยการพิจารณาสัดส่วนจำนวนครูต่อจำนวนนักเรียนให้เหมาะสมกับจำนวนเงินอุดหนุนที่ได้รับ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในทำนองเดียวกันนี้อีก อย่างไรก็ตามยังมีโรงเรียนที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ ซึ่ง สช.ได้ตรวจสอบการจ่ายเงินเดือนครูและเบี้ยเสี่ยงภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว และจะได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนจำนวน 286 คน เปิดสอนระดับอนุบาลจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ครู 54 คน สอนวิชาสามัญ 26 คน ครูสอนศาสนา 28 คน โดยโรงเรียนได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคลในอัตราระดับก่อนประถมศึกษา 13,884.50 บาท/คน/ปี ระดับประถมศึกษา 13,584.50 บาท/คน/ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 16,432.50 บาท/คน/ปี และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 16,732.50 บาท/คน/ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี