ลุยปราบ‘เด็กผี’! ‘หมอธี’ยันพบแค่บางพื้นที่ เรียกคืนร.ร.ได้เงินเกิน
15 พ.ย.61 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้พบจำนวนนักเรียนผีเพิ่มเติมที่จังหวัดอื่น นอกเหนือจาก จ.อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด หรือไม่ ตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีเมื่อข่าวนี้ออกมาจะเหมือนข่าวเรื่องอาหารกลางวัน เมื่อเกิดเรื่องและประชาชนเห็นว่าฝ่ายนโยบายเอาจริง ลงไปจัดการจริง ก็จะมีคนกล้าที่จะออกมาให้ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ขอให้มองภาพใหญ่ว่าเรื่องเด็กผี ไม่ได้มีจำนวนมากอย่างที่คิด เพราะเกิดขึ้นในบางพื้นที่เท่านั้น เมื่อมีข่าวออกมา ประชาชนคิดว่าวันๆ ศธ.มีแต่เด็กผี ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะปีนี้ ศธ.จัดการเรื่องเด็กผี เด็กซ้ำซ้อนได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งปัญหาเรื่องเด็กผี เด็กซ้ำซ้อน บางส่วนมาจากปัญหาการเก็บข้อมูล อาจเป็นเรื่องความไม่ตั้งใจ ความไม่เข้าใจ โกงและทุจริตมีหรือไม่ หรืออาจมีบ้าง แต่ไม่มากอย่าที่คิด
“เวลาจะปฏิรูปการศึกษา หรือปฏิรูปอะไรก็ตาม ต้องปฏิรูปด้วยความรัก แต่ผมเป็นคนเสียงดัง และโมโหถ้ามีการทุจริต ก็ต้องแยกแยะระหว่างการทุจริต และการทำงานไม่เป็น ถ้าทำงานไม่เป็นต้องลงไปช่วย แก้ไขปัญหา และสิ่งที่เป็นปัญหาของ ศธ.มาโดยตลอด คือ โปรแกรมรวบรวมข้อมูลจำนวนนักเรียนที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำในลักษณะต่างคนต่างทำ ผมสั่งการไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(สป.ศธ.) ให้สร้างโปรแกรมให้ทุกหน่วยงานเชื่อมโยงข้อมูลกัน และขณะนี้ได้รับรายงานว่ากำลังแก้ไขและดำเนินการกันอยู่” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนการเรียกเงินคืนจากโรงเรียนที่แจ้งยอดเด็กเกินจะเรียกคืนอย่างไร ต้องถามนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ว่า มีระเบียบ ข้อปฏิบัติในการเรียกเงินจำนวนนี้คืนอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่าควรจะคืนเงินจำนวนนี้กลับมา
ด้านนายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ค่อนข้างที่จะรัดกุมในการจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนในสังกัด สช. เนื่องจาก สช.จะทำการเช็คยอดนักเรียนจากสถานศึกษาทุกเดือน เพื่อตรวจสอบจำนวนเด็กเข้า-ออกจากโรงเรียน ก่อนที่จะดำเนินการโอนเงินอุดหนุนไปให้
“ยอมรับว่าที่ผ่านมามีปัญหาอยู่บ้าง แต่ขณะนี้มีระบบการตรวจสอบที่ดีขึ้น ทำให้ปัญหานี้ลดลง ส่วนกรณีที่ตรวจพบว่ามีการให้ข้อมูลตัวเลขเด็กที่เป็นเท็จ สช.สามารถดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ได้ทันที หรือหากพบว่าโรงเรียนทำงานผิดพลาด แจ้งจำนวนนักเรียนไม่เป็นความจริง สช. จะใช้มาตรการเรียกเงินส่วนที่เกินคืน พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ตั้งแต่วันที่รับเงิน จนถึงวันที่คืนเงิน” นายชลำ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีข่าวว่าพบการทุจริตของสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ที่มีเทคนิคการทุจริตของผู้บริหารของโรงเรียน ด้วยวิธีการสร้างนักเรียนล่องหนขึ้นมา หรือใช้ชื่อเด็กแรกเกิดมาเป็นชื่อนักเรียนในโรงเรียน เพื่อเรียกรับเงินอุดหนุนของรัฐจาก สช. ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายชลำ กล่าวว่า สช. ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับทางโรงเรียนแห่งนี้แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามดำเนินคดี ส่วนตนจะส่งเรื่องนี้ไปยัง ศึกษาธิการ(ศธจ.) กาญจนบุรี เพื่อขอให้ติดตามความคืบหน้าต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี