บิ๊กโจ๊กจับยกแก๊ง
ตุ๋นชาวบ้านลงทุน
ยอดเสียหาย200ล.
“สุรเชษฐ์” นำทีม ศปอส.ตร.รวบ 9 ผู้ต้องหาฉ้อโกง หลอกชาวบ้านนับพันร่วมลงทุน เสียหายกว่า 200 ล้าน ทั้งยังเปิดบริการเสริมรับฝากลูกหลานเหยื่อเข้ารับราชการ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท. ผบช.สตม. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท .ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ รรท.ผบก.สส.บช.ภ.4 พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.(191) พ.ต.ท.นฤวัต พุทธิวิโร สว.งานสายตรวจ บก.สปพ.(191) สนธิกำลัง นายเมธี สุวรรณฝ่าย รอง ผวจ.สกลนคร ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 9 รายเมื่อวันที่ 16 พ.ย. เวลา 23.00 น.
ผู้ต้องหาประกอบด้วย นางฐิตินันท์ ดอนเงิน นายกฤษกร ดอนเงิน นายชยพล ทองคลองไชย นางฐานีนุช สวรรณกำจาย นายนิพนธ์ งามเถื่อน นางสาวนิตยา คำจำปา นางรัตนพร พิกุลทอง นายอนุวัชช์ อัมพวัน และนายกฤษฏภาส สุคนธชาติ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมอันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชน”
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประชาชน ที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มของ นางฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก และนายอนุวัชช์ อัมพวัน กับพวก เชิญชวนชาวบ้านสมัครเข้าเป็นสมาชิกโดยให้ผลตอบแทนสูง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิก และร่วมลงทุนตามที่ผู้ต้องหาหลอกลวง รวมจำนวน 1,165 ราย เป็นเงินกว่า 47 ล้าน โดยพฤติการณ์นางฐิตินันท์ชักชวนให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิกของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งจะได้สิทธิประโยชน์ตอบแทนต่างๆ โดยจะต้องจ่ายเงินค่าสมัครและเงินลงทุนต่างๆ อีกทั้งหลอกลวงว่าสามารถฝากงานเป็นข้าราชการ หรือพนักงานราชการของหน่วยงานรัฐได้ ส่วนนายอนุวัชช์อ้างเป็นประธานบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ สามารถจัดหาเงินมาช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหนี้สินจากการถูกนางฐิตินันท์หลอกลวง และสามารถจัดหาที่ดินทำกินให้ผู้เสียหายได้ มีผู้เสียหายหลงเชื่อแล้วมอบเงินให้ดำเนินการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหาทั้งสิ้น จำนวน 11 ราย โดยจับกุมได้ 9 ราย
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ร่วมกันหลอกผู้เสียหายได้เงิน จำนวน 200 ล้านบาท นอกจากนี้จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นางฐิตินันท์ กับพวก ได้ทำการหลอกลวงจัดทำโครงการ “ปิดทองหลังพระ” ในหลายพื้นที่ของ จ.สกลนคร รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 60,927,530 บาท รวมทั้งในหลายจังหวัด ได้แก่ จ.อุดรราชธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา อีกทั้งมีพฤติการณ์ข่มขู่ผู้เสียหายจนเกิดความกลัวไม่กล้าร้องทุกข์ดำเนินคดี ทั้งนี้การดำเนินการเป็นสองส่วน คือบังคับใช้กฎหมายและเยียวยาผู้เสียหาย จึงขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ถูกนางฐิตินันท์ กับพวก หรือบุคคลใดก็ตามกล่าวอ้างหลอกลวงในลักษณะเช่นนี้ ให้มาแสดงตัวร้องทุกข์ที่ตำรวจภูธรจังหวัดของแต่ละจังหวัด เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี