ศาลจังหวัดสมุทรปราการ สั่งจำคุกคนละ 4 ปี ไม่รอลงอาญา อดีตอัยการ สคช. กับ2 สาวลักลอบขนนอแรดเมื่อปี 60 ขณะที่ศาลให้ประกันคนละ 2 แสน สู้ชั้นอุทธรณ์
20 พ.ย.61 ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีลักลอบขนนอแรด หมายเลขดำ อ.3682/2560 ที่พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางฐิติรัตน์ อาราอิ , น.ส.กานต์สินี อนุตรานุศาสตร์ และ นายวรภาส หรือพ.ต.ต.วรภาส บุญศรี อดีตรองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสระบุรี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันพา หรือนำของต้องจำกัดหรือของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร หรือเกี่ยวข้องด้วยประการใดๆในการหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรฯ , ร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งซากสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันนำซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร
กรณีสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 มี.ค.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านตรวจอาคารผู้โดยสาร ตรวจค้นกระเป๋าต้องสงสัยพบนอแรด 21 นอ หนัก 49.4กิโลกรัม มูลค่า 49,400,000 บาท ที่จำเลยทั้งสามอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ตามความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 , พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 , พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.60 จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลจังหวัดสมุทรปราการ พิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสามมีพฤติการณ์กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องจริง เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษ ฐานร่วมกันพา หรือนำของต้องจำกัดหรือของต้องห้าม(นอแรด)เข้ามาในราชอาณาจักร หรือเกี่ยวข้องด้วยประการใดๆในการหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรฯ ซึ่งเป็นบทหนักสุด ให้จำคุก จำเลยทั้งสามคนละ 4 ปี โดยไม่รอการลงโทษ
ส่วนที่อัยการโจทก์ ขอให้นับโทษของ นางฐิติรัตน์ จำเลยที่ 1 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดง 3380/2560 ของศาลจังหวัดอุดรธานีนั้น เมื่อปรากฏความว่า ในคดีดังกล่าวศาลพิพากษาจำคุก 2 ปีและปรับ 40,000 บาท นางฐิติรัตน์ไว้โดยโทษจำคุกนั้นศาลรอการลงโทษไว้กำหนด 3 ปีภายหลังที่จำเลยกระทำผิดคดีที่ฟ้องนี้ จึงไม่อาจนับโทษต่อและไม่อาจบวกโทษคดีดังกล่าวกับคดีในวันนี้ได้ด้วย
ทั้งนี้ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกจำเลนทั้งสามแล้ว จำเลยได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยศาลจังหวัดสมุทรปราการพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสามระหว่างอุทธรณ์ โดยตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ภายหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 16 มี.ค.60 อัยการสูงสุดขณะนั้นได้ตั้ง นายประณต ผ่องแผ้ว ผู้ตรวจการอัยการขณะนั้นเป็นประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งได้ทำการสอบข้อเท็จจริงเสร็จพร้อมส่งความเห็นไปยังอัยการสูงสุดว่า พ.ต.ต.วรภาส มีเหตุอันควรสงสัยว่า จะกระทำการผิดวินัยและสมควรตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยระหว่าง พ.ต.ต.วรภาส ก็ถูกย้ายมาเป็น อัยการประจำสำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ 3 ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.60 ซึ่งภายหลังก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและสั่งพักราชการ พ.ต.ต.วรภาส ไว้ก่อนจนมีการฟ้องคดีดังกล่าว
โดยหลังจากนี้เมื่อคดีมีคำพิพากษาแล้ว ก็เป็นไปได้ที่ฝ่ายคณะกรรมการอัยการ หรือ ก.อ. ที่พิจารณาบทลงโทษข้าราชกาอัยการ จะขอคัดคำพิพากษาคดีนี้มาพิจารณาถึงบทลงโทษทางวินัยนายวรภาส หรือ พ.ต.ต.วรภาส หรืออย่างไรต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี