จับ‘สารวัตรเก๊’หลอกคบซ้อนพยาบาล ตุ๋นยืมเงินอ้างใช้วิ่งขึ้นตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครสวรรค์ ว่า เมื่อช่วงเย็นวันนี้(21 พ.ย.61) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ควบคุมตัวนายสิทธิพร ผดุงพิทักษ์ชน อายุ 38 ปี พร้อมของกลางบัตรประจำตัวตำรวจปลอม และชุดเครื่องแบบตำรวจสีน้ำเงิน ส่งให้กับ ร.ต.อ.ณัฐธนพล อินทรเรืองศร พนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ , ไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบ หรือประดับเครื่องหมายของพนักงาน เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ โดยมีหญิงสาวผู้เสียหายชื่อ น.ส.เปิ้ล(นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจว่านายสิทธิพร หลอกลวงเงินไปจำนวน 2 แสนบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับแจ้งความ ระบุว่า น.ส.เปิ้ล แจ้งความว่านายสิทธิพรซึ่งมีพฤติกรรมแอบอ้างตนเองเป็นตำรวจ และอ้างว่าเป็นชายโสด เข้ามาตีสนิท พูดคุยหยอดคำหวานตามจีบ จนตกลงใจคบกันเป็นแฟน แล้วปรากฏว่ามารู้ภายหลังนายสิทธิพรมีครอบครัวแล้ว อีกทั้งในช่วงที่คบหากันยังมาหลอกขอยืมเงินไปจำนวน 2 แสนบาท จนกระทั่งเลิกคบหากัน

อย่างไรก็ตาม นายสิทธิพรไม่ยอมคืนเงินที่ยืมไป จึงได้นำหลักฐานต่างๆเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ ให้ดำเนินการจับกุมก่อนจะทำการตรวจค้นรถยนต์ของผู้ต้องหา พบบัตรตำรวจปลอมระบุยศเป็น พ.ต.ท.สิทธิพร ผดุงพิทักษ์ชน ตำแหน่งสารวัตรกลุ่มงานวิเคราะห์ข่าวการเมืองและก่อการร้ายสากล สังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 4 และชุดตำรวจระบุสังกัดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 อีก 1 ชุด  จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน น.ส.เปิ้ล กล่าวว่า ในช่วงที่คบเป็นแฟนกับนายสิทธิพร ได้มาขอยืมเงินตนจำนวน 2 แสนกว่าบาท โดยอ้างว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปใช้เพื่อวิ่งเต้นขึ้นตำแหน่งรองผู้กำกับการ(รอง ผกก.) ตนเห็นว่าเป็นแฟนกัน และอยากช่วยให้คนรักได้เลื่อนตำแหน่ง จึงได้นำเงินที่เก็บออมจากการทำงานเป็นพยาบาล และที่พ่อแม่ให้ไว้ นำไปให้นายสิทธิพรยืม สุดท้ายก็ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจ ที่มาทราบภายหลังว่านายสิทธิพรมีครอบครัวแล้ว และไม่ได้เป็นนายตำรวจยศใหญ่ จึงตัดสินใจขอเลิกเด็ดขาด พร้อมกับทวงเงินที่ถูกยืม แต่คนที่เคยรักรายนี้ กลับบ่ายเบี่ยงหนีหน้ามาโดยตลอด จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้นายสิทธิพรนำเงินมาคืน ซึ่งตนได้แจ้งความฐานฉ้อโกงกับพนักงานสอบสวนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ ระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำ น.ส.เปิ้ล ปรากฏว่ามีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นภรรยานายสิทธิพรเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อขอประกันตัวสามี จึงทำให้ น.ส.เปิ้ล และหญิงคนดังกล่าวประจันหน้ากัน โดยหญิงรายนี้ได้พูดว่า “คนนี้ใช่หรือไม่ที่เป็นชู้กับแฟนของชาวบ้าน” ทำให้ น.ส.เปิ้ล ถึงกับหน้าถอดสี พร้อมกับอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องเช่นนี้ เพราะก่อนที่จะคบหากัน นายสิทธิพรบอกตนเองเป็นชายโสดและไม่มีครอบครัว โดยหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นภรรยานายสิทธิพร บอกว่า คบหาแต่งงานเป็นสามีภรรยากับนายสิทธิพรมานานหลายปีแล้ว แต่ในส่วนรายละเอียดต่างๆของสามีไม่ขอพูดถึง