23 พ.ย. 61 พล.ต.ต.ฐากรู เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้รับรายานจาก พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ว่าเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา (22 พ.ย.) ร.ต.อ.วีรพงศ์ ขุนรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีด 2 คน เสียชีวิตคาที่ 1 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดในกระท่อมไม่มีเลขที่ หมู่ 9 บ้านทุ่งนางแวก ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.สภ.พระพรหม พ.ต.ต.ไกรกฤต แขกเพ็ง สวป พร้อมพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยนคร เขต อ.พระพรหม รีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสร้างใหม่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ภายในบ้านบนฟูกที่นอนศพ พบนางสายฝน มณีโสตร์ อายุ 21 ปี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าที่ลำตัวหลายแผล เสียชีวิตในลักษณะนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ และนายกิตติพงศ์ บุญประกอบ อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ และเป็นสามีของนางสายฝน ผู้ตาย ถูกแทงเข้าลำตัวหลายแผลได้รับบาดเจ็บสาหัส ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้จนข้าวของกระจุยกระจาย และมีเลือดไหลนองพื้น จึงรีบนำนายกิตติพงศ์ บุญประกอบ ผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพระพรหม แต่อาการสาหัส เนื่องจากคมมีดทะลุปอด จึงนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และอาการยังไม่พ้นขีดอันตราย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านางสายฝน เสียชีวิตทั้งกลมเนื่องตั้งกำลังท้องประมาณ 4-5 เดือน ส่วนคนร้ายคือนายอัษฎาวุฒิ ศรีอุทัย อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นสามีเก่าของนางสายฝน ผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยก่อนเกิดเหตุนางสายฝน ผู้ตาย และนายกิตติพงศ์ สองผัวเมีย ชวนกันไปลอยกระทง หลังลอยกระทรงเสร็จจึงพากันกลับมานอนพักผ่อนในบ้าน ระหว่างนั้นมีนายอัษฎาวุฒิ คนร้าย ซึ่งเป็นสามีเก่าของนางสายฝน ขับรถมาจอดหน้าบ้านและไม่พูดพล่ามทำเพลงได้ถีบประตูบ้านจนพังก่อนบุกเข้าไปกระหน่ำแทงนายกิตติพงศ์ และนางสายใน อย่างบ้าคลั่ง โดยนายกิตติพงศ์ พยายามต่อสู้ปกป้องตัวเองและนางสายฝน เมียรัก แต่ถูกนายอัษฎาวุฒิ จ้วงแทงด้วยมีดปลายแหลมจนล้มฟุบแน่นิ่งจมกองเลือด จากนั้นนายกิตติพงศ์ ตรงเข้าไปกะซวกแทงนางสายฝน อย่างโหดเหี้ยม และเข้าใจว่านายกิตติพงศ์ และนางสายฝน เสียชีวิตแล้ว จึงวิ่งออกจากในบ้านมาขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ญาติของนายอัษฎาวุฒิ ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กันได้ยินเสียงโครมครามผิดปกติ พากันวิ่งมาดูเป็นจังหวะที่นายอัษฎาวุฒิ ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีพอดี เมื่อเข้าตรวจสอบในบ้านพบนางสายฝน ถูกแทงเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายกิตติพงศ์ บาดเจ็บสาหัส จึงรีบนำนายกิตติพงศ์ ส่งโรงพยาบาลพระพรหม พร้อมแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ทางด้าน พล.ต.ต.ฐากรู เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เดินทางลงพื้นที่ติดตามคามคืบหน้าในการสอบสวนติดตามจับกุมนายอัษฎาวุฒิ ฆาตกรเหี้ยมสามีเก่าของนางสายฝน ผู้ตาย เนื่องจากเป็นดีที่คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พร้อมกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับนายอัษฎาวุฒิ จากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญนางรรรณี พรหมเพชร อายุ 50 ปี แม่ของนางสายฝน ผู้ตายมาสอบสวนปากคำ ที่ สภ.พระพรหม ได้ความว่าก่อนหน้านี้นางสายฝน ได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับนายอัษฎาวุฒิ (คนร้าย) แต่เนื่องจากนายอัษฎาวุฒิ ไม่มีงานการทำเป็นหลักแหล่งและความประพฤติไม่เรียบร้อย ในที่สุดเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมานางสายฝน ผู้ตาย จึงตัดสินใจหนีกลับมาอยู่กับนางวรรณี ผู้เป็นแม่ และแจ้งให้แม่ทราบว่าตนเองตั้งท้องกับนายอัษฎาวุฒิ สามีประมาณ 3 เดือนเศษ ในขณะที่นายกิตติพงศ์ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นหนุนหมู่บ้านเดียวกันและแอบรักนางสายฝนมานานแล้ว ไดเข้ามาสู้ขอนางสายฝน ไปอยู่กินเป็นสามีภรรยากัน นางวรรณี จึงอนุญาติให้นางสายฝน ไปอยู่กินกับนายกิตติพงศ์ อย่างออกหน้าออกตา ทำให้นายอัษฎาวุฒิ สามีเก่าเกิดความหึงหวงได้ตามมาง้อขอให้นางสายฝน กลับไปอยู่กินกับตนเองอีกครั้ง แต่นางสายฝน ไม่ยอมกลับไป ทำให้นายอัษฎาวุฒิ สามีเก่าโกรธแค้นบุกมาถีบประตูบ้านบุกเข้าไปกะซวกแทงนางสายฝน อดีตเมียรักจนตายสยองทั้งกลมและนายกิตติพงศ์ สามีใหม่นางสายฝน บาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ล่าสุดนางวรรณี ได้ขอรับศพนางสายฝน กลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี