25 พ.ย.61 ร.ต.ท.สถิตคุณ สุขหล้า รองสารวัตร (สอบสวน) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุชายพลัดตกจากที่สูงลงมาเสียชีวิต ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยอินทามระ 45 จึงประสาน แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบและชันสูตรศพ  

โดยที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมสูง 9 ชั้น แบ่งเป็น 2 ตึก ตรงกลางมีทางเชื่อมระหว่างตึกทั้งสอง บริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นลานจอดรถในอาคารของโรงแรมดังกล่าว พบศพ MR.HAMID RAMJOU (นายฮาเมท รัมโจ ) อายุ 38 ปี สัญชาติอิหร่าน สวมเสื้อกล้ามลายพรางทหารสีเทา กางเกงขาสั้นสีเทา มีเลือดออกบริเวณศีรษะ และใบหน้า นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ที่พื้นกลางลานจอดรถ 

เบื้องต้นพบว่าผู้ตายพักอาศัยอยู่ห้อง 815 ชั้นที่ 8 ของโรงแรมดังกล่าว และจากการตรวจสอบภายในห้องพบยาเบื่อหนู ยี่ห้อราคูมิน วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งจำนวน 1 ซอง ( ยังไม่ฉีก ) บนที่นอนมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอส7 ของผู้ตายวางอยู่ 1 เครื่อง หน้าจอโชว์สาย ที่ไม่ได้รับหลายสาย บนหัวเตียงมีภาพหญิงสาวชาวไทยตั้งอยู่ 1 ภาพ ทั้งนี้ยังพบว่าหน้าต่างหลังห้องเปิดอยู่ ที่ราวระเบียงด้านหลังห้องมีเชือกไนล่อนม้วนอยู่กับราวจำนวนหลายรอบ ปลายเชือกโยงเข้ามาภายในห้องคล้องกับคานผ้าม่าน และยังพบร่องรอยการเหยียบที่คอมแอร์จนมีรอยบุบ 

สอบสวน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ด้านหลังตัวอาคารจู่ๆ ได้ยินเสียงคล้ายวัตถุขนาดใหญ่หล่นลงมา บริเวณลานจอดรถในอาคาร ทีแรกคิดว่าเป็นยางล้อรถระเบิด จึงรีบวิ่งมาดูก่อนพบร่างชายชาวต่างชาติสภาพเลือดไหลนองเต็มพื้นนอนแน่นิ่งอยู่ จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ ทั้งนี้จำได้ว่าผู้เสียชีวิตเดินทางเข้ามาเพียงคนเดียว มาเช่าพักชั่วคราวจำนวน 2 วัน และเข้าพักที่ห้องเลขที่ 815 ชั้นที่ 8 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24  พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร  กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ของโรงแรมพบผู้ตายเข้ามาพักเพียงคนเดียว และยังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าไปภายในห้องหลังจากที่ผู้ตายเข้าพัก คาดว่าผู้ตายน่าจะมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เนื่องจากทางโรงแรมระบุว่า ขณะที่ผู้ตายมาติดต่อห้องพักวานนี้ ทางโรงแรมได้ให้ห้องว่างที่ชั้น 2 แต่ผู้ตายขอเปลี่ยนเป็นชั้น 8 รวมถึงในห้องยังพบว่า มีการเตรียมเชือกไนล่อนมาผูกกับราวนอกระเบียงไว้ และยังพบยาเบื่อหนูวางในห้องพัก 

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมอบศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี  พร้อมประสานทางสถานฑูตอิหร่าน รวมถึงติดตามหญิงสาวที่ปรากฏบนภาพที่วางอยู่ในห้องมาสอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง จนทำให้ผู้ตายตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว