"กฤษฎา"สั่งกยท.เพิ่มจุดรับซื้อน้ำยางสดจากเกษตรกรในพื้นที่ทำสวนยางโดยตรง เข้าโครงการถนนยางพารา ตั้งเป้าใช้น้ำยาง 9.6 แสนตัน ชี้อปท.ทั่วประเทศ หนุนงบทำถนนยางกว่า8หมื่นหมู่บ้าน ได้ประโยชน์ตกกับท้องถิ่น ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่ม
26 พ.ย.61 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าขณะนี้เกษตรและสหกรณ์ (กษ.) จังหวัด และผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จังหวัด รายงานว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายจังหวัดแจ้งสนับสนุนงบประมาณเพื่อเข้าร่วมโครงการใช้ยางหน่วยงานรัฐ ทำถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา ซี่งมีพื้นที่นำร่องแล้ว อาทิ หนองบัวลำภู สงขลา สุราษฎร์ธานี ชุมพร ตรัง อุทัยธานี ทั้งนี้ ขอความร่วมมือ อปท.ทั่วประเทศ ใช้งบประมาณเหลือจ่าย งบประมาณสะสม หรืองบอื่นๆ มาสร้างถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพาราในตำบลและหมู่บ้านกว่า 8 หมื่นแห่งๆ ละ 1 กิโลเมตร จะใช้น้ำยาง 12 ตัน รวมทั่วประเทศใช้น้ำยางพาราไม่น้อยกว่า 9.6 แสนตัน พร้อมกับได้สั่งการให้ กยท.พิจารณาเพิ่มจุดรับซื้อน้ำยางสดในจังหวัดอื่น ที่ยังไม่มีจุดรับซื้อด้วยเพื่อจะได้ใช้ผลผลิตยางจากเกษตรกรในท้องถิ่น ซึ่งหาก อปท.สนับสนุนโครงการนี้ จะทำให้ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและทุกชุมชนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์โดยตรง
สำหรับ จ.อุทัยธานี มีสถาบันเกษตรกรที่ทำสวนยางพารา แต่ขายเป็นยางแผ่นดิบ จึงไม่มีจุดรับซื้อน้ำยางสดในพื้นที่ ในเบื้องต้นจึงประสานไปยัง กยท.จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอรับซื้อน้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกร อย่างไรก็ตาม ถ้า อปท.ที่เข้าร่วมโครงการมีเป็นจำนวนมากจะหาแนวทางให้สหกรณ์ชาวสวนยางเปิดเป็นจุดรับซื้อน้ำยางสดเพื่อเกษตรกรในพื้นที่จะขายน้ำยางได้ในราคาสูงขึ้น อีกทั้งสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งลงได้
ในส่วนถนนตัวอย่างที่ดำเนินการแล้ว คือ ถนนคันคลองชลประทาน ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง ดำเนินการโดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลา อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งกรมชลประทานจัดทำโดยใช้งบประมาณจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เดิมเป็นถนนแอสฟัลท์ซึ่งทรุดโทรมแล้ว จึงปรับปรุงผิวทางโดยทำรูปแบบงานยางพาราแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ซึ่งนำยางมะตอยเดิมมารีไซเคิล ปั่นผสมซีเมนต์และหินคลุกพร้อมบดอัดแน่น ราดไพร์มโคท แล้วขั้นตอนสุดท้ายจึงราดยางพาราแอสฟัลท์เป็นผิวทาง ความยาว 7.918 กิโลเมตร งบประมาณ 40 ล้านบาท โดย กยท.จังหวัดพร้อมนำเสนอแบบก่อสร้าง สูตรผสมในการทำถนนได้ทั้งในแบบถนนงานยางพาราแอสฟัลท์ติกคอนกรีต และถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพาราซึ่งใช้ยางพาราผสมกับลูกรังและปูนซีเมนต์ ในสูตรผสมยางพาราประมาณ 12 ตันต่อกิโลเมตร ต่อความกว้างถนน 6 เมตร เป็นผิวทางเช่นกัน
นายกฤษฎา กล่าวว่า จากที่มีข้อเสนอของสถาบันเกษตรกรที่ต้องการให้ อปท.รับซื้อน้ำยางสดในราคากิโลกรัมละ 60 บาท โดยขณะนี้ราคาซื้อขายน้ำยางสดที่ตลาดกลาง กยท.อยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 37 บาทนั้น มีตัวอย่างจาก จ.หนองบัวลำภู ซึ่ง ผอ.กยท.หนองบัวลำภู รายงานว่า การซื้อขายน้ำยางสดจะคิดที่ราคาน้ำยางข้น 60% โดยวันที่ 15 พ.ย.ซึ่ง อบจ.หนองบัวลำภู รับซื้อน้ำยางสดจากสหกรณ์ 1,200 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 26.67 บาท กลุ่มเกษตรกรมีรายได้ 32,004 บาท ทั้งนี้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำแอมโมเนียและสารกันกอกเพื่อป้องกันยางจับตัวเป็นก้อนมาผสม รวมทั้งค่าขนส่งซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอีก 10.23 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งในวันเดียวกันนั้นที่ตลาดกลางยางพาราสงขลาน้ำยางข้น 60% อยู่ที่กิโลกรัมละ 36 บาท ดังนั้น หากขายน้ำยางสด 1,200 กิโลกรัม ตามเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง ซึ่งเท่ากับ 348.16 กิโลกรัม ตามราคาตลาดกลางสงขลา จะขายได้ 12,533.76 บาท เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ราคาที่สหกรณ์ขายให้ อบจ.หนองบัวลำภู อยู่ที่กิโลกรัมละ 55.31 บาท สูงกว่าตลาดกลางสงขลาถึง 19.31 บาทต่อกิโลกรัม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี