ชี้ช่องเอาผิด‘แก๊งโกงคนพิการ’ พมจ.แนะแจ้งความอาญาฐาน‘เบียดบัง-ยักยอก’
ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ออกมาร้องเรียนเงินค่าจ้าง ระบุประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ จ่ายเงินค่าจ้างไม่ครบตามสัญญา กระทั่งเข้าร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ มีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อต่อสายตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ลงพื้นที่สอบผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่รัฐ
ล่าสุดวันที่ 27 พ.ย.61 นางฐานิดา อนุอัน ประธานเครือข่ายผู้พิทักษ์สิทธิคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ร้องเรียนหมายเลข 1 กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 หลายรายว่าได้รับหนังสือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด(พมจ.) กาฬสินธุ์ สรุปใจความว่าให้ผู้ร้องเรียนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายในเวลา 3 เดือน ไม่เช่นนั้นคดีจะขาดอายุความ
นางฐานิดากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนและผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา ที่ไม่ได้รับค่าจ้างเต็มตามจำนวนที่ระบุในสัญญา และสงสัยว่าจะถูกหักหัวคิว ได้ไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน และบางคนแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เพื่อเป็นหลักฐานและรวบรวมส่งให้ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการส่วนกลาง เพื่อประกอบหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม และร้องเรียนต่อหน่วยงานตรวจสอบ ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี , ป.ป.ช. , ป.ป.ท. , สตง. , ดีเอสไอ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้วกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากร้องเรียนมาตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.61
“ช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวจาก พมจ.กาฬสินธุ์ ที่กำกับดูแลสิทธิคนพิการ ได้ส่งหนังสือถึงผู้ปกครองคนพิการฯ ที่ร้องเรียนในปมปัญหาดังกล่าว ซึ่งตนเพิ่งจะได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวในวันนี้ โดยหนังสือลงวันที่ 20 พ.ย.61 เรื่องแจ้งสิทธิการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย” นางฐานิดากล่าว
นางฐานิดากล่าวเพิ่มเติมว่า เนื้อหาในหนังสือระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ข่าวจากสถานีโทรทัศน์ รายงานข่าวชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ หักค่าจ้างงานคนดูแลคนพิการ ซึ่งจะได้รับเดือนละ 9,125 บาท รวม 1 ปีจะได้รับเงินจำนวน 109,500 บาท แต่ได้รับเพียงเดือนละ 4,000 – 4,500 บาท 1 ปีจะได้รับเงิน 48,000 – 54,000 นั้น
จากการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และการรวบรวมข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง พบว่าภายหลังจากสมาชิกในชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 10 ราย ซึ่งได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ได้ทำสัญญาจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการกับบริษัทไทย เอ็น โอเค จำกัด โดยผ่านขั้นตอนตามระเบียบทุกกระบวนการแล้ว
ต่อมาประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการฯ ได้เก็บสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มของผู้ปกครองคนพิการฯทั้ง 10 รายมาเก็บรักษาไว้ โดยอ้างว่าเพื่อความสะดวกในการเบิกจ่ายเงินให้กับผู้ปกครองคนพิการฯ ได้ทำการเบิกถอนเงินค่าจ้าง ซึ่งทางบริษัทฯ โอนให้ผู้ปกครองคนพิการฯ ออกจากบัญชีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของ และนำเงินจากที่ได้จากการเก็บรักษาทรัพย์สินของผู้อื่น มาเป็นของตนเองโดยไม่สามารถอ้างความชอบด้วยกฎหมายได้ การกระทำดังกล่าวเป็นการเบียดบังเอาเงินค่าจ้าง ซึ่งทางบริษัทฯ โอนจ่ายให้ผู้รับจ้างไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
นางฐานิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า หนังสือฉบับดังกล่าวยังระบุอีกว่า กรณีดังกล่าวอาจมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดฐานยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ โดยท่านเป็นผู้เสียหาย สามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิด และรู้ตัวผู้กระทำผิด มิฉะนั้นคดีจะขาดอายุความร้องทุกข์ตามกฎหมาย
“เมื่อได้รับหนังสือจากสำนักงาน พมจ.กาฬสินธุ์ดังกล่าว จะได้หารือกับผู้ปกครองคนพิการฯ ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 อีกครั้งว่าได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ครบทุกคนหรือยัง เพราะทราบว่าบางคนไปแจ้งลงบันทึกประจำวันเท่านั้น หากยังไม่แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีก็ให้รีบดำเนินการ โดยจะนัดรวมตัวกันเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ หลังจากนั้นก็จะรวบรวมเอกสาร เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมที่กองปราบปรามที่กรุงเทพฯต่อไป” นางฐานิดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี