28 พ.ย.61 นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังห้องประชุมเทศบาลตำบลเพ จ.ระยอง เพื่อร่วมรับฟังความคิดเห็น โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง ปรับปรุงท่าเรือเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีบริษัทโกลเด้น แพลน จำกัด เป็นผู้ทำการวิจัยในโครงการดังกล่าว และ นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายก เทศมนตรีเทศบาลตำบลเพ ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุมในฐานะเจ้าของพื้นที่
นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ได้กล่าวว่า สำหรับท่าเรือเพ ซึ่งเป็นท่าเรือของ อบจ.ระยอง ที่ให้สัมปทานกับเอกชนมาตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ด้วยความเสื่อมโทรม ทำให้สภาพของท่าเรืออยู่ในสภาพที่ไม่มีความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว จนกระทั่ง คณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดและท่าเรือของ จ.ระยอง ได้มีการตรวจสอบท่าเรือท่องเที่ยว พบว่าพื้นท่าเรือเพเกิดชำรุดทรุดโทรม และยังมีการก่อสร้างเพิ่มเติมรุกล้ำไปในพื้นที่ชายหาด จึงนำไปสู่การยกเลิกสัมปทานกับเอกชนผู้สัมปทานท่าเรือเพ
อบจ.ระยอง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยว เพราะในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าสู่จังหวัดระยอง โดยเฉพาะเกาะเสม็ด สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือแห่งนี้ เพื่อให้เพียงพอรองรับนักท่องเที่ยว โครงการปรับปรุงท่าเรือเพ เพื่อให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยจึงเริ่มขึ้น ทาง อบจ.ระยอง จึงว่าจ้าง บริษัท โกลเด้น แพลนจำกัด มาทำการวิจัยถึงผลกระทบในด้านต่างๆ โดยว่าจ้างมาในราคา 1.98 ล้านบาท ระยะเวลา 120 วัน ศึกษาถึงความเหมาะสมในด้านเศรษฐศาสตร์ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นในการก่อสร้าง รวมถึงด้านการบริหารท่าเรือ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในข้อระเบียบข้อบังคับ ข้อจำกัด และข้อกฎหมาย
รวมถึงการศึกษาแนวทาง อัตราการใช้บริการท่าเรือ หรืออัตราค่าธรรมเนียมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และ การพิจารณาระเบียบและข้อกำหนดต่างๆของกรมธนารักษ์และเจ้าท่าในฐานะเจ้าของพื้นที่ เพื่อให้การประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนราชการ เอกชน ให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน สอดคล้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548
ด้านนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลเพ กล่าวว่า แรกเริ่มท่าเรือเพ แต่เดิมเกิดขึ้นจากผู้ที่ได้สัมปทานได้ก่อสร้างขึ้นมาเอง โดยเสียค่าเช่าให้ อบจ.ระยอง ซึ่งเป็นท่าเรือไม้ที่ใช้ในกิจการประมงโดยมีเรือประมงในพื้นที่เข้าเทียบท่าเป็นหลัก จนกระทั่ง เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ได้หันมาประกอบกิจการท่าเรือท่องเที่ยว โดยทางผู้สัมปทานเป็นเพียงผู้ดูแลท่าเรือ ให้เช่าพื้นที่กับชาวบ้านที่นำเรือมาบริการรับส่งนักท่องเที่ยว แบ่งเป็นล็อคให้เช่าในอัตราที่เหมาะสม เจ้าของท่าเรือไม่ได้มีกิจการเรือโดยสารเป็นของตัวเอง จึงอยู่ร่วมกันได้กับผู้ประกอบการที่พึ่งพากัน
ส่วนเรื่องการปรับปรุงท่าเรือให้มาตรฐานก็นับว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยว แต่หากจะมองถึงความเหมาะสม ทั้งด้านพื้นที่ของท่าเรือที่มีพื้นที่น้อยไม่เหมาะกับการพัฒนาให้เป็นท่าเรือที่ได้มาตรฐาน จะเห็นได้จากปัจจุบันกับปัญหาเรื่อง การกีดขวางการจราจร เพราะรถบัสนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าจอดได้ จึงจอดริมถนน ที่จอดรถ ทั้งแออัดคับแคบ หากต้องการพื้นที่เพิ่มก็ต้องถมทะเลออกไป แต่ผิดกฎหมาย และ ทำลายสิ่งแวดล้อม ตามที่กล่าวอ้างว่าพัฒนาท่าเรือเพื่อเพียงพอต่อนักท่องเที่ยว ความเป็นจริงแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวที่แท้จริง เฉลี่ยปีละประมาณ6แสนคน ถึง 1 ล้าน ตกวันละประมาณ 1640 คน ในปัจจุบันมีท่าเรือทั้งหมด 8 ท่า รวมถึงท่าเรือของเทศบาลตำบลเพ ซึ่งเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ได้มาตรฐาน เฉลี่ยแล้ว หนึ่งท่าเรือจะมีนักท่องเที่ยวเพียงท่าเรือละ 205 คน จำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนนี้ถือว่าแต่ละท่าเรือยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อีกหลายเท่าตัว จึงต้องการให้บริษัทที่ทำวิจัยได้เล็งเห็นถึงความเหมาะสม รวมถึงชาวบ้านที่รุกล้ำบริเวณท่าเรือลงไปในทะเล ก่อนปี พ.ศ.2537 จะดำเนินการอย่างไร จึงต้องการให้บริษัทที่ทำวิจัยศึกษาให้ละเอียดรวมถึงการศึกษาข้อกฎหมาย กฎระเบียบให้คลอบคลุมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี