น้า-เพื่อนบ้านข่มขืน
หลานออทิสติก13ปี
ตร.รวบตัวไม่สำนึก
ขู่พ้นโทษฆ่าล้างครัว
ตำรวจรวบน้าแท้ๆ กับเพื่อนบ้านหื่น ข่มขืนหลานสาวป่วยออทิสติกวัย 13 ปี ขู่อาฆาตถ้าพ้นโทษจะฆ่าทิ้งยกครัว พ่อ-พี่สาวสุดช้ำใจ ถามทำไมทำได้ลงคอ อยากให้ลงโทษถึงที่สุด พฤติกรรมเสพยาคลั่งอาละวาดทำร้ายคนในบ้าน อีกคดีศาลสั่งจำคุก5ปี หนุ่มอ้าง‘ปู่ฤาษีตาไฟ’ข่มขืนสาว17สารภาพลดกึ่งหนึ่ง รอลงอาญา3 ปี
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เข้าจับกุมนายทวิพงษ์ พูนสังข์ หรือติ๊ก อายุ 37 ปีและนายสุวิน หรือน๊อต (สงวนนามสกุล) อายุ 25ปี ชาวบ้านน้ำใส ต.อีสาณเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ หลังจาก น.ส.เมย์(นามสมมติ) อายุ 22 ปีเข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เฉลิมพระเกียรติว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้บังคับข่มขืนด.ญ.เอ(นามสมมติ)อายุ13ปี น้องสาวตัวเองป่วยเป็นออทิสติก เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคม2561โดยนายสุวินผู้ต้องหา เป็นน้าชายแท้ๆ ด.ญ.เอ ส่วนนายทวิพงษ์ เป็นเพื่อนบ้าน
สอบสวน เบื้องต้น นายติ๊กได้สารภาพว่าได้ก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.เอ จริง ทั้งหมด 3ครั้งอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะความเมาจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหา ส่วนนายสุวินยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน ประกอบกับนายติ๊กก็ให้การซักทอดว่านายน๊อตเคยเล่าให้ตนเองฟังว่าเคยลงมือข่มขืน ด.ญ.เอ หลานของตัวเองจริง
สอบถาม ด.ญ.เอ เหยื่อผู้เสียหายเล่าว่าครั้งแรกที่ถูกนายน๊อต น้าชายกระทำชำเราคือช่วงกลางเดือนสิงหาคมโดยวันเกิดเหตุมีนายน๊อตอยู่บ้านคนเดียว ใช้มีดจี้ที่เอว แล้วบังคับให้เดินเข้าไปในห้อง ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ด้วยความกลัว จึงไม่กล้าขัดขืนและไม่กล้าไปบอกใคร จากนั้นช่วงกลางเดือนตุลาคม ขณะปั่นจักรยานไปเล่นในหมู่บ้านตามปกติ เมื่อปั่นผ่านหน้าบ้านนายติ๊ก นายติ๊ก ก็ออกมายืนขวางรถจักรยาน แล้วบังคับให้เข้าไปในบ้านแล้วใช้กำลังบังคับข่มขืน หลังข่มขืนเสร็จก็ให้เงินตน 200 บาท
ด้านน.ส.เมย์ พี่สาวผู้เสียหาย บอกว่าเมื่อวันที่ 25 พ.ย.เห็นน้องสาวมีอาการผิดปกติจึงเค้นถามน้องว่าเกิดอะไรขึ้น จนน้องสาว ยอมเล่าให้ฟังว่า ถูกนายน๊อตที่เป็นน้าชายแท้ๆใช้มีดจี้บังคับข่มขืนและได้ถูกนายติ๊กเพื่อนบ้านใช้กำลังข่มขืนอีกหลายครั้ง ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะไม่คิดว่านายน๊อต เป็นน้าชายแท้ๆอาศัยในบ้าน กินข้าวหม้อเดียวกัน จะทำกับน้องสาวที่ป่วยเป็นออทิสติกได้ลงคอ
ส่วนนายบุญเพ็ง ผู้เป็นพ่อบอกว่ารู้สึกเสียใจมาก หัวอกคน เป็นพ่อ รับไม่ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายผู้ต้องหาทั้งสองให้ถึงที่สุด ที่ผ่านมาครอบครัว เอือมระอากับพฤติกรรมของนายน๊อตมาตลอด นอกจากจะไม่ทำการทำงาน ยังติดเสพยาเสพติด เกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายคนในบ้านจนต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติ เคยแจ้งตำรวจจับดำเนินคดีหลายครั้งแล้ว พอออกมา ก็มีพฤติกรรมเดิมๆซ้ำอีก ไม่เข็ดหลาบ ล่าสุด เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมที่ก่อเหตุข่มขืนลูกสาว ยังขู่อาฆาตว่า หากพ้นโทษออกมาจะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน ทำให้ครอบครัวก็กลัวจะไม่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย แจ้งข้อหา พราก พา เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง และข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ส่วนความคืบหน้าคดี นายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ คนพิการแขนขาอ่อนแรง อ้างตัว เป็นร่างทรงพ่อปู่ฤาษีตาไฟ ถูกแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ คดีก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.บี ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในท้องที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร และ ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯซึ่งนายสุรสิทธิ์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและศาลอนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งพนักงานอัยการส่งสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษนั้น
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดศรีสะเกษได้อ่านคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง จึงตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ปรับ 60,000 บาท ซึ่งการไต่สวนในชั้นศาลจำเลยให้การรับสารภาพ และจำเลยยอมจ่ายสินไหมเยียวยาผู้เสียหาย เป็นเงิน150,000บาทจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือนและปรับ 30,000 บาท โทษจำคุก ให้รอลงอาญา 3 ปี โดยให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง มีบางข้อหาที่สามารถยอมความได้ ผู้เสียหาย ได้ถอนคำร้องแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี