วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
จาการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ 6/2561 ที่ผ่านมา การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ได้เน้นหนักยึดการทำงานเชิงพื้นที่เป็นหลัก ใช้การตลาดนำการผลิต ซึ่งมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินงาน ให้การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ สามารถขยายผลได้ครอบคลุมทั้ง 13 กลุ่มจังหวัด 56 จังหวัดเป้าหมาย
ในส่วนของการดำเนินงานก็จะเป็นไปตามหลักการเกษตรอินทรีย์ระดับสากล สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (IFOAM) ที่ได้กำหนดหลักการที่สำคัญของการผลิตเกษตรอินทรีย์ไว้ 4 ด้าน คือ ด้านสุขภาพ (Health) ด้านนิเวศวิทยา (Ecology) ด้านความเป็นธรรม (Fairness) และ ด้านการดูแลเอาใจใส่ (Care) รายละเอียดของหลักการ 4 ด้าน ดังนี้
ด้านสุขภาพ (Health) เกษตรอินทรีย์ควรต้องส่งเสริมและสร้างความยั่งยืนให้กับสุขภาพอย่างเป็นองค์รวมของดิน พืชสัตว์ มนุษย์ และโลก ไม่ว่าจะเป็นการผลิตในไร่นา การแปรรูป การ
กระจายผลผลิต หรือการบริโภค โดยมุ่งที่ผลิตอาหารที่มีคุณภาพสูงและมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อสนับสนุนให้มนุษย์ได้มีสุขภาวะที่ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้เกษตรอินทรีย์จึงเลือกที่จะปฏิเสธการใช้ปุ๋ยเคมีสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เวชภัณฑ์สัตว์และสารปรุงแต่งอาหารที่อาจมีอันตรายต่อสุขภาพ
ด้านนิเวศวิทยา (Ecology) เกษตรอินทรีย์ควรจะต้องตั้งอยู่บนรากฐานของ ระบบนิเวศวิทยาและวัฏจักรแห่งธรรมชาติ การผลิตต้องสอดคล้องกับวิถีแห่งธรรมชาติ ช่วยให้ระบบและวัฏจักรธรรมชาติเพิ่มพูนและยั่งยืนมากขึ้น หลักการเกษตรอินทรีย์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของระบบนิเวศที่มีชีวิต ดังนั้นการผลิตการเกษตรจึงต้องพึ่งพาอาศัยกระบวนการทางนิเวศวิทยาและวงจรของธรรมชาติ เช่น การปลูกพืชเกษตรกรจะต้องปรับปรุงดินให้มีชีวิต หรือในการเลี้ยงสัตว์เกษตรกรจะต้องใส่ใจกับระบบนิเวศโดยรวมของฟาร์ม หรือแม้แต่การเก็บเกี่ยวผลผลิตจากป่า ต้องสอดคล้องกับวัฏจักรและสมดุลทางธรรมชาติ ดังนั้นการจัดการเกษตรอินทรีย์จึงจำเป็นต้องสอดคล้องกับเงื่อนไขท้องถิ่น ภูมินิเวศ วัฒนธรรม และเหมาะสมกับขนาดของฟาร์ม เกษตรกรควรใช้ปัจจัยการผลิตและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านความเป็นธรรม (Fairness) เกษตรอินทรีย์ควรจะตั้งอยู่บนความสัมพันธ์ ที่มีความเป็นธรรมระหว่างสิ่งแวดล้อมโดยรวมและสิ่งมีชีวิต ในหลักการด้านนี้ความสัมพันธ์ของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและการจัดการผลผลิตเกษตรอินทรีย์ในทุกระดับควรมีความสัมพันธ์กันอย่างเป็นธรรมทั้งเกษตรกร คนงาน ผู้แปรรูป ผู้จัดจำหน่าย ผู้ค้า และผู้บริโภค ทุกคนควรได้รับโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ด้านการดูแลเอาใจใส่ (Care) การบริหารจัดการเกษตรอินทรีย์ควรจะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและรับผิดชอบเพื่อปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คนทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งพิทักษ์ปกป้องสภาพแวดล้อมโดยรวมด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีระบบการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีคุณภาพ แต่ด้านการตลาดจะต้องเป็นตัวกำหนดและนำการผลิตเสมอ เพื่อให้สินค้าที่ผลิตได้ถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายและขยายเป็นวงกว้างต่อไป เบื้องต้นตลาดของสินค้าเกษตรอินทรีย์ในตลาดท้องถิ่น หรือตลาดภายในประเทศ กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้ชี้เป้าหมายได้แก่ โรงพยาบาลทั้ง 896 แห่งทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมดำเนินโครงการโรงพยาบาลอาหารปลอดภัย นอกจากนี้ก็จะมีโรงเรียน สถาบันการศึกษา 36,000 แห่ง และโรงแรมอีกประมาณ 10,000 แห่ง โดยกระทรวงเกษตรฯจะทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรให้ทำการผลิตเกษตรอินทรีย์ให้ได้มาตรฐาน ในส่วนของตลาดต่างประเทศองค์การตลาดฯกระทรวงมหาดไทย จะช่วยหาตลาดและทำแบรนด์สินค้าเกษตรอินทรีย์ สนับสนุนตลาดเกษตรอินทรีย์ในต่างประเทศ เช่น EU IFOAM USDA เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี