ผู้ครอบครองแหวนหัวกระเบนท้องน้ำซากของสัตว์ป่าคุ้มครองแห่ลงทะเบียนวันสุดท้ายเนื่องแน่นโดยในจังหวัดมีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า1,300 คนจำนวนกว่าหมื่นชิ้นพร้อมขอให้รัฐขยายเวลาลงทะเบียนต่อไปอีกขณะนี้จากที่มีการให้ขึ้นทะเบียนพบว่ามีประชาชนจำนวน 1,300 ได้ได้นำของซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนกว่า 10,000 ชิ้น

29 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สำนักงานประมงจังหวัดพังงา ได้มีประชาชนที่ครอบครองซากของกระเบนท้องน้ำหรือปลาโรนิน ได้มาขึ้นทะเบียนในวันสุดท้ายกันอย่างเนืองแน่นสำนักงานประมงจังหวัดพังงา โดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่มพ่อค้าที่จำหน่ายสินค้าประเภทหัวแหวนกระเบนที่ครอบครองไว้กันเป็นจำนวนมากหลังจากที่ทางสำนักงานประมงจังหวัดพังงาแจ้งให้ผู้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวซากของสัตว์ป่าคุ้มครองหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองให้นำรูปภาพหรือของจริงมาประกอบโดยมีประชาชนที่นำแหวนหัวกระเบนท้องน้ำที่มีจำหน่ายทั่วไปมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรก็ตามทางสำนักงานประมงจังหวัดพังงา ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกไปให้บริการกับประชาชนตามอำเภอต่างๆของจังหวัดพังงาซึ่งพบว่ามีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจมาขึ้นทะเบียน และในวันนี้เป็นวันสุดท้ายพบว่ายังมีประชาชนส่วนใหญ่ที่ครอบครองหัวแหวนกระเบนมาขึ้นทะเบียนที่สำนักงานประมงจังหวัดพังงา ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้หน่วยงานมีการประชาสัมพันธ์การขึ้นทะเบียนให้ประชาชนรับทราบมากกว่านี้พร้อมขยายเวลาในการขึ้นทะเบียนต่อไป

ด้านนายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัดพังงา กล่าวว่า หลังจากเริ่มเปิดรับแจ้งครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-29 พ.ย.นี้ เป็นวันสุดท้ายของการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวได้มีประชาชนและพ่อค้าจำนวนมากนำเอกสารหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ซากผลิตภัณฑ์หรือภาพถ่ายซากหรือผลิตภัณฑ์สัตว์สงวนที่ประสงค์จดแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้นำรูปภาพหรือของจริงไปแจ้งครอบครองที่สำนักงานประมงจังหวัดพังงาโดยส่วนใหญ่จะเป็นแหวนหัวกระเบนท้องน้ำที่มีขายทั่วไป หรือหัวปลาโรนิน ขณะนี้จากที่มีการให้ขึ้นทะเบียนพบว่ามีประชาชนจำนวน 1,300 ได้ได้นำของซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนกว่า 10,000 ชิ้นมาขึ้นทะเบียนแล้วที่สำนักงานประมงจังหวัดพังงา ซึ่งปัจจุบันถูกประกาศเป็นสัตว์คุ้มครองแล้ว เริ่มวันที่ 30 พ.ย.นี้จะถูกจับปรับ 40,000 บาท หากไม่มีหนังสือการครอบครองโดยเด็ดขาด