ผบช.ภาค7แถลงรวบ2คู่หู"ไอ้โอ วังขนาย-ไอ้ติณ หนองกุ่ม" ยึดของกลางยาบ้า8.4แสนเม็ด เผยยาบ้าทั้งหมดลำเลียงมาจากทางภาคเหนือเตรียมส่งขายให้กลุ่มลูกค้าภาคกลาง
3 ธ.ค.61 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภาค 7 , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 (ปส.) , พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , นายสมยศ ศิลปีโยดม รอง ผวจ.กาญจนบุรี , พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงส์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี (ปส.) , พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี (สส.) , พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี (ปป.) , พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี , พ.ต.อ.สรวัชร์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.บ่อพลอย , พ.อ.เรืองศักดิ์ อรรคทิฆากุล รอง ผบ.กกล.รส.มทบ.17 , พ.อ.มนตรี ธนาวรรณโอภาส เสธ กกล.รส.มทบ.17 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี , เจ้าหน้าที่ ตำรวจ บช.ปส.และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.แถลงข่าวจับกุมตัว นายธนันชัย หรือโอ ชาวหนองบัว อายุ 33 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี และนายติณภพ หรือ ติณ พึ่งกุล อายุ 29 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี
พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 840,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ตอนครึ่ง ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน บย-2829 บุรีรัมย์ ที่ใช้สำหรับขนยาบ้า จำนวน 1 คัน รถยนต์ กระบะ ตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บม-6469 ราชบุรี จำนวน 1 คัน รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ-3201 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กท-4917 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน นอกจากนี้ ยังมีโทรศัพท์ของู้ต้องหาอีกจำนวน 2 เครื่อง โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 จะถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผบช.ภาค 7 กล่าวว่า ตามนโนบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องการปราบปรามหยุดยั้งการแพร่ระบาทของยาเสพติดให้โทษ โดยตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ทุกตำรวจภูธรในสังกัดดำเนินการสืบสวนจับกุม สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทุกเส้นทาง และจับกุมผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ให้เป็นไปตามนโยบายอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง และให้มีการสืบสวนขยายผลให้ได้ทุกคดี
การกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ทั้งภาครัฐและเอกชนทุกหน่วยงานที่จะต้องบูรณาการร่วมกัน ทั้งในเรื่องการป้องกันดังกล่าว ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดน ตนได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการสกัดกั้นยาเสพติดอย่างต่อเนื่องทุกเส้นทาง ทั้งทางรถยนต์ รถโดยสาร รถไฟ และทางไปรษณีย์
สำหรับยาบ้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เป็นยาบ้าเกรด A ที่ลำเลียงมาจากทางภาคเหนือ และจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งการจับกุมนอกจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว ยังมีผู้ร่วมขบวนการอยู่อีก 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป สำหรับข้อมูลของเครือข่ายนั้น เจ้าหน้าที่ขอปิดเอาไว้ก่อน เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวทางสืบสวน
ด้าน ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดประเภทยาบ้า มาจากทางภาคเหนือ แล้วนำมาพักเอาไว้ในเขตพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ก่อนจะส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยขบวนการดังกล่าวจะใช้รถยนต์กระบะ ตอนครึ่ง สีดำ ยี่ห้อฟอร์ด ใส่ล้อแม็ค สีดำ เป็นรถขนยาเสพติด ซึ่งจะใช้เส้นทางอู่ทอง ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เข้ามาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
ต่อมาวันที่ 3 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 04.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.มานะ สำราญวงศ์ สว.กก.สส.ฯ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปสุ่มดักรอสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณทางแยกอู่ทอง - บ่อพลอย ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และพบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีดำ ยี่ห้อฟอร์ด ใส่ล้อแม็ค สีดำ ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อรถยนต์กระบะมาถึงบริเวณดังกล่าว คนขับได้เลี้ยวขวาเข้าพื้นที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ดังนั้น พ.ต.ท.มานะ พร้อมกำลังจึงได้ขับรถติดตามไป
จนกระทั้งรถยนต์กระบะคันดังกล่าว เข้าไปจอดที่บ้านพักเลขที่ 15/3 หมู่ที่ 9 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งเช้า เมื่อได้โอกาสที่เหมาะสม เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวและทำการตรวจค้น พร้อมกับคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 เอาไว้
การตรวจค้นผลปรากฏพบยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำวางเอาไว้ที่บริเวณแค็ปของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จำนวน 420 มัด นับรวมกันได้ 840,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับของกลางยาบ้าที่ทำการจับกุมได้ มีมูลค่า 25,000,000 บาท และทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ มีมูลค่า 2,000,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี