อ.ต.ก.เล็งเสนอรมว.เกษตรฯทุ่มงบ3พันล้านบาท ปรับโฉมครั้งใหญ่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ดึงเกษตรกรเด่นๆจากทั่วประเทศเสริมตลาด เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ตั้งเป้ารายได้2หมื่นล้านบาทปี64 เผยเตรียมขึ้นค่าเช่าแผงค้า608แผงเริ่มเก็บอัตราใหม่1ม.ค.62 ชี้การรถไฟฯขึ้นค่าเช่าที่ดิน100%แบกรับขาดทุนต่อ
4 พ.ย.61 นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่าเตรียมรายงานให้กับ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในเรื่องแผนการสร้างตลาดนํ้า และตลาดเกษตรครบวงจรในพื้นที่ย่าน อ.ต.ก.เดิม คาดว่าจะใช้เงินประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นเงินทุนของ อ.ต.ก.โดยวัตถุประสงค์เพื่อหาตลาดให้เกษตรกรโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนไทยหรือคนต่างชาติ ซึ่งยืนยันว่า สินค้าที่จำหน่ายในนี้จะเป็นคนละประเภทกับสินค้าในตลาดที่มีอยู่แล้ว โดยจะเน้นนำสินค้าเด่นๆ ของเกษตรกร ของกลุ่มจังหวัดต่างๆ มาจัดจำหน่าย ทั้งให้คนไทยและต่างชาติ เมื่อคนเข้ามามากขึ้นก็จะกระจายคนไปสู่ตลาดต่างๆ ของ อ.ต.ก.ซึ่งผู้ประกอบการเดิมก็จะจำหน่ายของได้มากขึ้น
นายกมลวิศว์ กล่าวต่อว่า รวมทั้งได้มีแผนงานขยายดำเนินการ อ.ต.ก.ทุกสาขา ตามวิสัยทัศน์ว่าจะเป็นตลาดสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2564 โดยมีเป้าหมายในปี 2562 จะเพิ่มมูลค่าตลาดเป็น 5,000 ล้านบาท ปี 2563 เป็น 1 หมื่นล้านบาท และปี 2564 เป็น 2 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันตลาด อ.ต.ก. (ย่านจตุจักร) มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับนโยบายในปี 2562 มี 3 ประเด็นหลักที่จะทำ คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท , ลดการขาดทุนให้ได้ และประกาศการคอร์รัปชันของ อ.ต.ก.ต้องเป็นศูนย์
"จากในปี 2558 อ.ต.ก.ขาดทุนอยู่ 120 ล้านบาท พอเข้ามาบริหารแล้วสามารถปรับลดขาดทุนเหลือ 80 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะลดการขาดทุนเหลือ 30 ล้านบาท แต่มีภาระเพิ่มขึ้นจากค่าเช่าที่ดินการรถไฟฯ อีกกว่า 50 ล้านบาท จากค่าเช่าที่ดินการรถไฟฯ กว่า 40 ล้านบาท ซึ่งสัญญาเช่าใหม่ 10 ปี การรถไฟฯ ปรับค่าเช่าขึ้นกว่า 100% และมีการปรับเพิ่มค่าเช่า 5% ทุกปี เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ในปี 2559 มีรายได้เพิ่ม 113 ล้านบาท เดิมจ่ายค่าเช่ากว่า 40 ล้านบาท จะต้องมาจ่ายค่าเช่าเป็น 104 ล้านบาท จะเห็นว่ามีภาระค่าเช่าเพิ่มเท่าตัว ซึ่งก็ไม่ใช่จ่ายค่าเช่าอย่างเดียว ก็ต้องจ้างพนักงานทำความสะอาดและพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) มาดูแล จึงทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้น" นายกลมวิศว์ กล่าว
นายกมลวิศว์ กล่าวว่า เพื่อลดการขาดทุน อ.ต.ก.จึงจำเป็นที่จะต้องเก็บค่าเช่าแผงขึ้น ปัจจุบันเก็บค่าเช่าแผงค้า 608 แผง อัตราค่าเช่าเฉลี่ยตํ่าสุด 74.50 บาทต่อแผง/ต่อวัน คิดเป็นเดือนละ 2,235 บาท สูงสูดอยู่ที่ 377 บาทต่อแผง/ต่อวัน คิดเป็นเดือนละ 1.16 หมื่นบาท ในกว่า 600 แผง ที่ต่ำกว่า 200 บาทต่อวัน ประมาณ 390 แผง ส่วนใหญ่ตํ่ากว่า 200 บาท ซึ่งไม่ได้แพงจริง แต่คนมักไปอ้างว่าค่าเช่าแพง ซึ่งจริงแล้วไม่ใช่ โดยค่าเช่ายืนยันว่าไม่ได้แพงกว่าที่อื่นแน่นอน ยกตัวอย่าง ราคาแผง 200 บาทต่อวัน ปรับขึ้นที่ 40% คิดคำนวณราคาใหม่ 80 บาทต่อวัน จ่ายเป็น 280 บาทต่อวัน โดยราคาปรับใหม่จะจ่ายในวันที่ 1 ม.ค.62
"ที่ผ่านมาทุก 3 ปี อ.ต.ก.ปรับค่าเช่าแผง 16% ขณะที่ค่าเช่ารถไฟขึ้นทุกปี ปีละ 5% รวม 15% อ.ต.ก.ก็ปรับแบบนี้มาตลอดในสัญญาเก่า 10 ปีแรก พอถึงวันที่ต่อสัญญาใหม่ การรถไฟฯ บอกว่าเพิ่มขึ้นกว่า 100% แล้วถึงไปปรับอีก 5% ต่อปี จาก 54 ล้านบาท เป็น 104 ล้านบาท ปีนี้ อ.ต.ก.จ่าย 109 ล้านบาทแล้ว ปีหน้าต้องจ่ายประมาณกว่า 115 ล้านบาท จากแผนงานที่คิดว่าจะมีกำไร ในปี 2562 ก็ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ อีกด้านก็เห็นว่าพื้นที่นี้เป็นทำเลทองจริง หลายๆ หน่วยงานที่เช่ากับการรถไฟฯ ก็ในราคานี้ แต่หน่วยงานอื่นรัฐจ่ายค่าเช่าให้ แต่ อ.ต.ก.ต้องหาค่าเช่ามาจ่ายเอง ก็แตกต่างกันตรงนี้" นายกมลวิศว์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี