สมาชิกสหกรณ์กระบี่แห่ร้อง เอกชนทำ‘สัญญาอำพราง’ฮุบกรรมสิทธิ์ที่ดิน
4 ธ.ค.61 นายสุรินทร์ ดวงแก้ว อายุ 53 ปี สมาชิกของสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จ.กระบี่ และตัวแทนสมาชิกจำนวนหนึ่งได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ผ่านนายสมปอง รัตนะ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อขอความเป็นธรรมหลังถูกบริษัททำธุรกิจปาล์มน้ำมันรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.กระบี่ หลอกทำสัญญาให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน กสน.5 ซึ่งเป็นที่ดินถือครองทำประโยชน์ในเขตพื้นที่สหกรณ์นิคมอ่าวลึก แต่หลังออกเป็นโฉนดได้แล้ว ทางบริษัทเอกชนที่เคยทำสัญญาอำพรางไว้ บีบบังคับให้ ผู้ครอบครองเซ็นโอนกรรมสิทธิ์เป็นของบริษัททันที ทำให้เจ้าของที่ดินได้รับความเดือดร้อน เพราะจะต้องเสียที่ดินทำกินไปเป็นของบริษัทเอกชน
นายสุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ตน และสมาชิกคนอีกจำนวนประมาณ 40 ราย กำลังจะถูกบังคับให้โอนที่ดินให้เป็นของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง โดยมีการวางแผนอย่างแยบยล ตอนแรกบริษัทได้รับตนและสมาชิกคนอื่นๆหลายสิบราย เป็นลูกจ้างของบริษัท หลังจากนั้นก็ได้วางแผนให้ตนไปสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์นิคมอ่าวลึก พร้อมกับบอกว่าจะจัดสรรปันส่วนที่ดินให้คนละ 23ไร่ แต่ที่ดินอยู่ในเขตสหกรณ์นิคมอ่าวลึก เมื่อปี 2533 ตนได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัทดังกล่าว
ต่อมาทางบริษัทฯก็ให้ตนเข้าถือครองในที่ดินดังกล่าว ที่ได้มีการทำสัญญาบางอย่างกันไว้ โดยให้บริษัทอีกบริษัทหนึ่งเป็นคนทำสัญญากับชาวบ้านที่ได้รับสิทธิ์ กสน.5ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ และเมื่อครบกำหนดในปี 2560 สามารถออกโฉนดได้แล้ว ก็จะต้องโอนที่ดินให้กับบริษัทดังกล่าว โดยตกลงจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินให้รายละ 26,675 บาท แต่ตนปฏิเสธที่จะรับเงิน เพราะต้องการที่ดินทำกิน และได้เป็นสมาชิกและถือสิทธิ์ในที่ดินของสหกรณ์ฯอย่างถูกต้อง
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ต่อมาตนก็ได้ไปยื่นเรื่องกับสำนักงานที่ดิน และทางเจ้าหน้าที่นัดเข้ารังวัด แต่บริษัทไม่ยอมให้เข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากตนไม่ยินยอมเซ็นในสัญญาดังกล่าว และปัจจุบันนี้ตนไม่สามารถไปขึ้นทะเบียนคนจนได้ หรือสิทธิ์ใดๆก็ตามที่ทางรัฐบาลช่วยเหลือ ตนก็ไม่สามารถรับสิทธิ์ได้ เพราะตนมีชื่อเป็นผู้ครอบครองที่ดินของสหกรณ์ถึง 23 ไร่ เป็นคนจนก็ไม่ได้ เป็นคนรวยก็ไม่ได้
สำหรับที่ดิน 23 ไร่ ที่ตนได้รับสิทธิ์นั้นได้เห็นพื้นที่จริงเพียงครั้งเดียวในตอนที่บริษัทนำตนไปบอกตำแหน่งเพื่อรับสิทธิ์ หลังจากนั้นตนก็ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้อีกเลย และไม่เคยได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เพียงแต่ถือสิทธิ์แทนบริษัทฯเท่านั้น ตนพร้อมด้วยสมาชิก จึงได้เดินทางไปศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้เรื่องก็ยังเงียบอยู่ และหลังจากนี้ตนและคนที่เดือดร้อนก็จะเดินทางเข้า กทม.เพื่อไปร้องเรียนกับ นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี