นายพีระพันธ์ เหมะรัต ประธานกรรมการร้านสหกรณ์กรุงเทพ จำกัด เปิดเผยว่า ร้านสหกรณ์กรุงเทพ จำกัด เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2482 มีสมาชิกเริ่มต้นที่ 493 ราย ปัจจุบันมี 134,898 ราย มีสาขาอยู่ 5 สาขา ได้แก่ สาขาบางลำพู พระปิ่นเกล้า เอกมัย ลาดหญ้า และล่าสุดสาขาโรงพยาบาลปิยะเวท ซึ่งตลอดระยะเวลา 79 ปีที่ผ่านมา ถือว่าการดำเนินงานของร้านสหกรณ์กรุงเทพเป็นไปในทิศทางที่ดีมาตลอด เดิมเคยมีผลประกอบการไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อวันต่อสาขา แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจโลกผันผวน กระแสความนิยมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนตาม ทั้งยังมีผู้ประกอบการร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และมีตลาดออนไลน์เพิ่มเข้ามา ทำให้ยอดขายลดลง อย่างปี 2560 ยอดขายรวม 124 ล้านบาท พอมาปี 2561 ยอดขายลดลงเหลือ 104 ล้านบาท กำไร 4.8 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนกำไรที่ลดลงก็มีผลต่อการปันผลให้กับสมาชิก
ดังนั้น ร้านสหกรณ์กรุงเทพจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้องค์กรอยู่รอด มีเงินปันผลให้กับสมาชิกและสามารถดูแลพนักงานจำนวน 100 กว่าคนให้อยู่ได้ โดยเน้นนโยบายปรับตัวเพื่อความอยู่รอด “ลดเพื่อเพิ่ม”คือ ลดพื้นที่ขาย ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้จากการบริหารจัดการพื้นที่ให้เช่ามากขึ้น เนื่องด้วยร้านสหกรณ์กรุงเทพแต่ละสาขาจะมีพื้นที่ค่อนข้างมาก ก็ปรับลดขนาดพื้นที่ขายสินค้าของสหกรณ์ให้น้อยลงแต่ยังคงมีผลิตภัณฑ์ที่ครบครันและยังมีพื้นที่ให้สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน เพียงแต่นำพื้นที่ที่เหลือมาแปลงสินทรัพย์เป็นมูลค่าเพิ่ม เปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ทำการค้า และล่าสุดสาขาบางลำพูมีแผนพัฒนาพื้นที่ชั้นบนของร้านสหกรณ์เป็นโฮสเทล เปิดรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวย่านถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าในตลาดออนไลน์ ซึ่งขณะนี้มีสินค้ากว่า 280 รายการ ไปจำหน่ายที่ Shopee
“แม้ว่าสินค้าที่จำหน่ายในร้านสหกรณ์จะถูกกว่าร้านค้าทั่วไป อีกทั้ง สมาชิกที่มาซื้อสินค้าจะได้รับส่วนลดและได้รับเงินปันผล ที่สำคัญยังเป็นการสนับสนุนสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ถ้าเรายังยึดรูปแบบเดิมไม่พัฒนา หรือทำแต่ร้านค้าสหกรณ์อย่างเดียวต่อไปคงไม่รอด ดังนั้น ร้านสหกรณ์กรุงเทพจึงปรับกระบวนความคิดสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะใช้รูปแบบการบริหารจัดการพื้นที่อย่างครบวงจรของสาขาบางลำพูเป็นต้นแบบให้ 4 สาขา เพื่อนำไปปรับระบบการบริหารจัดการที่สอดคล้องและสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายพีระพันธ์ กล่าวย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี