7 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 23.00 น. ของ 6 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) กก.2 ปส.3 บช.ปส.สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่จากชายแดน เข้ามาในพื้นที่ชั้นใน บริเวณถนนพื้นที่ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ไปทางอ.เมืองเชียงราย จึงร่วมกับทหารศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) ทหาร ร.13 พัน.3 ในพระองค์ฯ นำกำลังออกไปสกัดกั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา-ดำ ขับไปตามถนนสายรองลัดเลาะมาจากชาแดนไทย-สปป.ลาว ติดแม่น้ำโขงพื้นที่ อ.เชียงแสน สู่ อ.ดอยหลวง อ.เวียงเชียงรุ้ง และเข้าสู่ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงได้สกัดกั้นแต่ปรากฎว่ารถคันดังกล่าวกลับขับหลบหนีจนกระทั่งถึงบริเวณเขต ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย โดยคนในรถได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อจะเปิดทางหลบหนีทำให้เกิดการต่อสู้กันไปตามเส้นทางจนถึงหมู่บ้านป่ายางมน หมู่ 5 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย รถได้เสียหลักจอดอยู่ข้างทาง จากการตรวจสอบพบฝ่ายตรงกันข้ามเสียชีวิต 1 คน โดยเป็นชายสวมเสื้อแขนสั้นสีม่วง กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ข้างศพพบปืนสั้นที่ใช้ยิงต่อสู้ตกอยู่จำนวน 1 กระบอก
จากการตรวจสอบเอกสารในตัวพบบัตรประจำตัวประชาชน ทรายชื่อนายอานัท อายุ 30 ปี ชาว ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย และจากการตรวจที่รถพบว่าที่กระบะด้านหลังที่มีหลังคาบรรทุกกระสอบฟางมาเต็มลำโดยมีจำนวนประมาณ 30-40 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดจำนวนมาก
เบื้องต้นเป็นยาบ้าคาดว่ามีประมาณ 15 ล้านเม็ด เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุเอาไว้และกระจายกำลังกันออกตรวจสอบว่ามีบุคคลอื่นหลบหนีไปอีกหรือไม่ บัตรดังกล่าวตรงกับผู้ตายหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างขยายผลและนำของกลางตรวจนับจำนวนที่แท้จริงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี