7 ธ.ค. 61 เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายนพสิทธิ รุ่งโรจน์โชคนิธิ อายุ 50 ปี ผู้ประกอบการขายสินค้าทางการเกษตร พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายประกอบด้วย แพทย์จาก รพ.ต่างๆ นักธุรกิจ รวมประมาณ 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก.สอบสวน กก.1บก.ป. เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดกับนางกันยานี ปานฉิม อายุ 50 ปี เกษตรกรดีเด่นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2560 ในข้อหาฉ้อโกง หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนซื้ออาหารสัตว์นำไปให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคกลาง จนต้องสูญเงินกว่า 40 ล้านบาท
นายนพสิทธิ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนรู้ได้จักนางกันยานี ผ่านทางเพื่อนของตน ที่แนะนำให้รู้จักขณะเดินทางไปทำบุญยังต่างจังหวัดด้วยกัน เพราะเห็นว่านางกันยานีเป็นเกษตรกรดีเด่นประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2560 และเคยรับรางวัลจากสถานปฏิบัติธรรมชื่อดังแห่งหนึ่ง จึงน่าจะเป็นคนดีมีเมตตา จึงได้พูดคุยจนเริ่มสนิทกันในระดับหนึ่ง ต่อมานายกันยานีได้อ้างกับตนเองว่า กำลังทำโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด พร้อมกับชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุน ซื้ออาหารสัตว์จากบริษัทเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง(เบทราโกล์ด) เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับกลุ่มเกษตรกร ในจังหวัด ต่างๆ อาทิ ลพบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาทอ่างทอง อุทัยธานี ผ่านทางสหกรณ์การเกษตรของแต่ละจังหวัด
โดย อ้างว่า ขณะนี้เป็ดเลี้ยงจำนวนมากกำลังอยู่ในสภาพอดอาหาร จากโครงการของรัฐ ที่ลงทุน ให้พันธ์เป็ดมาเลี้ยง แต่ไม่มีอาหารให้ ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด ต้องทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกัน เพื่อแย่งชิงอาหารไปเลี้ยงเป็ด พร้อมกับนำเอกสารสัญญาซื้อขายอาหารสัตว์ระหว่างสหกรณ์กับบริษัทผลิตอาหารสัตว์ รวมถึงหนังสือรับรองจากทางธนาคารมาให้ตนดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยความสงสารและเห็นว่าโครงการดังกล่าวนั้นเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดที่กำลังเดือดร้อนถึงแม้ตนจะได้รับผลตอบแทนไม่มากนักก็ตาม จึงได้ชักชวนเพื่อนๆที่ตนรู้จัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหมอและนักธุรกิจ มาร่วมลงทุนด้วยรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
นายนพสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดการลงทุนนั้น อาหารสัตว์จำนวน 1คันรถ จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวน150,000 บาท ได้กำไร 4,000 บาท ในระยะ 5 วัน โดยเริ่มลงทุน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งช่วงแรกที่นำเงินไปลงทุนนั้นยังได้รับผลตอบแทนตามปกติ ก่อนที่ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พ.ย. นางกันยานี ได้ติดต่อมาหาตนเพื่อขอให้ช่วยหาเงินมาลุงทุนเพิ่มอีก 12 ล้านบาท แต่ตนเห็นว่าเงินที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้มีมูลค่าค่อนข้างสูงมากพอแล้วจึงไม่ได้ให้ไป
จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมานางกันยานี ได้มีท่าทีเริ่มผัดผ่อนจ่ายเงินปันผลและคืนเงินลงทุนให้กับตนและพวก โดยอ้างว่ากำลังติดปัญหาถูกเจ้าหน้าที่สหกรณ์แห่งหนึ่งโกงเงินกว่า 20 ล้านบาท ก่อนจะเริ่มขาดหายการติดต่อไปในที่สุด ตนจึงนำสำเนาหนังสือสัญญาที่นางกันยานี เคยส่งให้ดูเพื่อประกอบการพิจารณาการลงทุนไปทำการตรวจสอบกับสหกรณ์ ที่ถูกอ้างถึง พบว่าเป็นหลักฐานเท็จ เช่นเดียวกับ หนังสือการันตีจากธนาคารเอกชน 2แห่ง ที่มีการออกย้อนหลัง จึงเชื่อว่ามีการกระทำเป็นขบวนการ ตั้งใจ หลอกลวงประชาชน จึงตัดสินใจรวมตัวกันมาเข้าแจ้งความกับทางกองปราบฯในวันนี้
ด้านพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้ทำการรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมกับทำการสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมามอบให้ประกอบการพิจารณา ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ทางพนักงานสอบสวนจะทำการพิจารณาข้อกล่าวหาว่าเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนด้วยหรือไม่ ก่อนจะส่งเรื่องต่อให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณาสั่งการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี