สตม.รวบ 7 ชาวต่างชาติชาวจีน ใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้าไทย รับจ้างสอบภาษาแทน มีเอเย่นต์รับงาน ชงเรื่องเพิกถอนอนุญาตอยู่ในไทย
10 ธ.ค.61 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และการกระทำผิดทางอาญาที่เป็นนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้รับการประสานจากสถาบันผู้จัดการสอบ เอซีที หรือแอคท์ (ACT) ซึ่งย่อมาจาก American College Testing เป็นข้อสอบมาตรฐานที่ใช้วัดระดับการใช้เหตุผล และการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ในการสอบเอซีที ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ทางสถาบันผู้จัดการสอบได้มีการตรวจสอบรายการจ่ายเงินค่าสอบแล้ว พบว่า ในการจ่ายเงินค่าสอบ มีการจ่ายเงินจากเครดิตการ์ดชาวจีนรายหนึ่ง ได้จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการสอบให้กับชาวจีนที่มาทำการสอบจำนวนหลายราย ซึ่งเป็นพฤติการณ์น่าสงสัย
ทาง ศปอส.ตร. จึงได้ทำการตรวจสอบบุคคลผู้ทำการสอบ ปรากฏว่า ผู้เข้าสอบชาวจีน จำนวน 5 ราย คือ MR.JIE WANG สัญชาติจีน อายุ 27 ปี , MISS.JIA LIN สัญชาติจีน อายุ 28 ปี , MISS.JUAN CHEN สัญชาติจีน อายุ 33 ปี , MISS.LI HUANG สัญชาติจีน อายุ 27 ปี และ MR.MICHAEL LI YAO สัญชาติอเมริกัน อายุ 30 ปี ไม่สามารถตอบคำถามข้อมูลส่วนตัวได้ตรงกับหนังสือเดินทางที่ตนใช้แสดงตัวเพื่อเข้าทำการสอบ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.นครปฐม และ ศปอส.ตร. เข้าทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางที่ชาวจีนทั้ง 5 ราย ได้ใช้แสดงตนเข้าสอบนั้น พบว่า มีลักษณะพิรุธต้องสงสัยหลายประการ น่าเชื่อว่าจะเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงได้ทำการตรวจยึดหนังสือเดินทาง จำนวน 5 เล่มดังกล่าวไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทำการตรวจสอบในเชิงลึก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถาม ผู้เข้าสอบชาวจีนทั้ง 5 รายดังกล่าว รับว่า ตนได้รับจ้างเข้ามาสอบเอซีที แทนผู้สมัครสอบตัวจริง โดยมีเอเย่นต์ในประเทศจีนเป็นตัวกลางติดต่อหาลูกค้าที่เป็นนักศึกษาในประเทศจีนให้ พร้อมทั้งเป็นผู้จัดการค่าเดินทาง ที่พัก และจัดหาหนังสือเดินทางปลอม ที่ใช้สำหรับการเข้าสอบส่งไปยังบ้านของผู้ที่รับจ้างสอบ โดยเป็นหนังสือเดินทางที่มี ชื่อ และข้อมูล ของคนที่ต้องการใช้ผลการสอบเอซีที ที่ไม่ได้มาสอบด้วยตนเอง แต่รูปภาพ เป็นของผู้ที่รับจ้างมาสอบจริง และเมื่อได้ทำการสอบ เอซีที เรียบร้อยแล้ว จะเอาหนังสือเดินทางปลอมทิ้ง และใช้หนังสือเดินทางตัวจริงของตนเองเดินทางกลับประเทศ หลังจากนั้นหากตนสามารถสอบได้คะแนนผ่าน จะได้รับค่าจ้าง เมื่อสอบผ่านเป็น จำนวนค่าจ้าง 10,000-20,000 หยวน
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.61 ศปอส.ตร. ได้รับการประสานจากสถาบันผู้จัดการสอบ เอซีที ที่โรงเรียนนานาชาตินิสท์ สุขุมวิท ซอย 15 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ว่า ทางสถาบันผู้จัดการสอบ เอซีที ได้การตรวจสอบผู้เข้าสอบแล้ว พบว่า ผู้เข้าสอบชาวจีน จำนวน 2 ราย คือ MR.HE LIU สัญชาติจีน อายุ 28 ปี และ MR.HUANG XIAOFAN สัญชาติจีน อายุ 39 ปี ไม่สามารถตอบคำถามข้อมูลส่วนตัวได้ตรงกับหนังสือเดินทางที่ใช้ในการแสดงตนเข้าสอบแต่อย่างใด จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. เข้าทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางที่ชาวจีนทั้ง 2 ราย ใช้ในการแสดงตนเข้าสอบนั้น พบว่า หนังสือเดินทางดังกล่าวมีลักษณะพิรุธต้องสงสัยหลายประการ น่าเชื่อว่าจะเป็นหนังสือเดินทางปลอมอีกเช่นกัน เมื่อได้ทำการสอบถามผู้เข้าสอบชาวจีน ทั้ง 2 ราย รับว่า เป็นผู้รับจ้างสอบแทนผู้สมัครสอบตัวจริง ซึ่งมีลักษณะพฤติการณ์เดียวกันกับกรณีก่อน โดยหากตนสามารถสอบได้คะแนนผ่าน จะได้รับค่าจ้าง เมื่อสอบผ่านเป็น จำนวนค่าจ้าง 10,000-20,000 หยวนเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดหนังสือเดินทาง จำนวน 2 เล่ม ดังกล่าว ไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทำการตรวจสอบในเชิงลึก
อีกทั้งเมื่อได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า MR.HE LIU ยังมีหนังสือเดินทาง อีกจำนวน 8 เล่ม ซึ่งหนังสือเดินทางดังกล่าวมีลักษณะพิรุธต้องสงสัยหลายประการ น่าเชื่อว่าจะเป็น หนังสือเดินทางปลอมอีกเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดหนังสือเดินทาง จำนวน 8 เล่มดังกล่าวไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทำการตรวจสอบในเชิงลึก และจากการสอบถาม MR.HE LIU รับว่า ได้เคยใช้หนังสือเดินทางดังกล่าว ตระเวนรับจ้างสอบแทนในลักษณะเช่นเดียวกันในสนามสอบอื่นๆ อีกหลายประเทศ
ผบช.สตม. กล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำเข้าลักษณะเป็นบุคคลต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 12 (7 ) จึงได้เชิญตัวผู้ต้องกัก ทั้ง 7 ราย ไปยัง กก.3 สส.สตม. เพื่อสอบบันทึกถ้อยคำ และได้เสนอความเห็นไปยัง ผบช.สตม. เพื่อให้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ของผู้ต้องกัก ทั้ง 7 ราย
จากการสอบบันทึกถ้อยคำผู้ต้องกักทั้ง 7 ราย รับว่า ตนได้เดินทางเข้าประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งแท้จริงแล้วตนได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อรับจ้างสอบภาษาแทนบุคคลอื่น โดยใช้หนังสือเดินทางปลอมเพื่อแสดงตนเข้าสอบ และจากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการตรวจสอบเชิงลึก หนังสือเดินทางซึ่งตรวจยึดไว้ ทั้งหมด 15 เล่ม ประกอบกับการตรวจสอบข้อมูลในสารบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ปรากฏว่า หนังสือเดินทาง ทั้ง 15 เล่มดังกล่าวนั้น เป็นหนังสือเดินทางปลอม
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. จึงได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ MR.JIE WANG สัญชาติจีน อายุ 27 ปี , MISS.JIA LIN สัญชาติจีน อายุ 28 ปี , MISS.JUAN CHEN สัญชาติจีน อายุ 33 ปี , MISS.LI HUANG สัญชาติจีน อายุ 27 ปี และ MR.MICHAEL LI YAO สัญชาติอเมริกัน อายุ 30 ปี และ MR.HUANG XIAOFAN สัญชาติจีน อายุ 39 ปี ในข้อหา “ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม , ปลอมและใช้รอยตรวจลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศปลอม , ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และ ปลอมและใช้รอยตราของเจ้าพนักงานปลอม”
ส่วน MR.HE LIU สัญชาติจีน อายุ ๒๘ ปี ซึ่งมีการตรวจยึดหนังสือเดินทางปลอม รวมจำนวน 9 เล่ม นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีในข้อหา “ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม , ปลอมและใช้รอยตรวจลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศปลอม , ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม , ปลอมและใช้รอยตราของเจ้าพนักงานปลอม และ มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งหนังสือเดินทางปลอม ” ตามกฎหมายต่อไป
# ขอบคุณภาพและข้อมูลข่าวจาก1. พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.อก.สตม. และโฆษก บก.อก.สตม. 2. พ.ต.อ.หญิง เอกอาภา ตันศิริ รองโฆษก บก.อก.สตม. และ 3. พ.ต.ต.หญิง วัชรี ศรีเผือก สว.ประชาสัมพันธ์ และเลขานุการโฆษก บก.อก.สตม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี