ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ 9 ธ.ค.61 ถึงวันที่ 19 ม.ค.62 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า

ในวันนี้ (10 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 2 มีประชาชนใส่ชุดไทยย่อนยุคและผ้าไทย เดินทางมาเป็นหมู่คณะและมาเป็นครอบครัว ใช้โอกาสวันหยุดชดเชยวันรัฐธรณมนูญ เดินทางมาเที่ยวงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย

โดยประชาชนที่มาร่วมงานจะต้องผ่านจุดคัดกรองทั้ง 4 จุด เริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าชมงานได้ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น.ส่วนวันศุกร์และเสาร์เปิดถึงเวลา 22.00 น.ประกอบด้วย จุดที่ 1 ริมถนนศรีอยุธยา ฝั่งสวนอัมพร ตรงข้าม บช.น.จุดที่ 2 บนทางเท้าข้างสนามเสือป่า ตรงข้ามกองทัพภาคที่ 1 จุดที่ 3 บนทางเท้าโค้ง ปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนอู่ทองใน และจุดที่ 4 บริเวณ เกาะกลางถนน หน้ากองทัพภาคที่ 1 ถนนราชดำเนินนอก โดยประชาชนต้องโชว์บัตรประชาชนผ่านเครื่องตรวจโลหะ และให้เจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าสัมภาระอย่างละเอียด ก่อนเจ้าหน้าที่จะติดสติ๊กเกอร์ที่หน้าอก เป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าได้ผ่านการตรวจสอบที่จุดคัดกรองแล้ว และเป็นการนับจำนวนผู้เข้ามาเที่ยวชมงาน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะต้องแสดงหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย

ทั้งนี้ เมื่อผ่านเข้ามาภายในงานแล้ว ประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสนใจถ่ายภาพกับพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ หรือพระที่นั่งกลางน้ำ ที่ถูกจำลองขึ้นโดยสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร นำมาประดิษฐานที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าพระลานพระราชวังดุสิต เช่นเดียวกับเรือพระที่นั่งจำลอง ขนาดครึ่งของลำจริง โดยสำนักช่างสิบหมู่ เป็นผู้จำลอง และจัดสร้าง ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลอง ขนาดยาว 25 เมตร กว้าง 1.60 เมตร เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 ขนาดยาว 26 เมตร กว้าง 1.80 เมตร เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ขนาดยาว 24 เมตร กว้าง 1.50 เมตร เรื่อพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ขนาดยาว 25 เมตร กว้าง 1.60 เมตร  โดยผู้เข้าชมงานต่างนำกล้องถ่ายภาพและโทรศัพท์มือถือเก็บภาพภายในงานไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ ยังมีดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์หลากสีสันให้ประชาชนได้ชมและถ่ายภาพด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคาร 606 สนามเสือป่า ภายในสำนักพระราชวัง ได้มีประชาชนจำนวนมากมาเข้าคิวเช่าชุดไทยแบบย้อนยุคที่คณะกรรมการจัดงานได้จัดเตรียมไว้ให้เช่า ในราคาชุดละ 250 บาทต่อวัน โดย นายคมสันฐ หัวเมืองลาด นาฎศิลปินอาวุโส กรมศิลปากร ในฐานะผู้ดูแลการเช่าชุด เปิดเผยว่า ได้จัดเตรียมชุดไทยแบบย้อนยุคจำนวนทั้งสิ้น 4 พันชุด ถือว่ามากพอสมควรเพื่อให้เพียงพอกับประชาชน โดยมีจุดให้บริการ 2 จุด จุดแรกที่อาคาร 606 ส่วน จุดที่ 2 ที่โรงอาหารเก่า ภายในสวนสัตว์ดุสิต โดยชุดทั้งหมดที่นำมาให้เช่าได้สั่งตัดขึ้นมาใหม่ทั้งหมด สำหรับชุดผู้หญิงมีแบบแกสบี้ แขนหมูแฮม ซึ่งเป็นชุดสมัยนิยมย้อนยุคตั้งแต่สมัย ร.5 เนื้อผ้าเป็นผ้าไหมเทียม ลายผ้าทอยกลำพูน ผ้าเกาะยอ ลายผุ้มข้าวบิน ลายดอกพิกุล เน้นสีหวานๆ ให้เข้ากับธีมของงาน ส่วนการออกแบบก็เน้นให้สวมใส่สะดวกสบายทุกคน มีทุกขนาด ส่วนชุดสำหรับผู้ชาย เป็นชุดร่วมสมัย ชุดทักซิโด้ ชุดราชปะแตน โจงกระเบน ชุดขุนนาง ชุดข้าราชการโบราญ พร้อมเครื่องประดับชายและหญิง สร้อยมุก ตั่งหู เข็มขัด นอกจากนี้ ยังมีชุดไทยสำหรับเด็กทั้งชายและหญิงให้บริการอีกด้วย ที่สำคัญชุดเมื่อชุดถูกใช้งานแล้วจะส่งไปซักรีดทำความสะอาดทุกวัน ไม่มีการใส่ซ้ำอย่างเด็ดขาด โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.ทุกวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในงาน ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญ และร้านอาหาร ประชาชนได้เข้าเลือกซื้อสินค้าและชิมอาหารไทยอย่างเนืองแน่น และที่ร้านจิตอาสา 904 ประชาชนจำนวนมากต่างพากันเข้าแถวเพื่อซื้อเสื้ออุ่นไอรักลายฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเสื้อคอโปโล จำหน่ายในราคาตัวละ 299 บาท คอกลม ราคา 199 บาท เปิดขายตั้งแต่ 10.00 น.แต่เนื่องจากมีประชาชนให้ความสนใจหาซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้เสื้อคอโปโล โดยเฉพาะสีเหลืองที่นำมาจำหน่ายในวันนี้ 1,700 ตัว ปรากฏว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงขายหมดไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน จนเจ้าหน้าที่ต้องประกาศว่าขอให้ประชาชนมาหาซื้อได้ในวันพรุ่งนี้

ด้าน น.ส.กำไรทอง อันทะระ พร้อมด้วย นส.บุญถม สิมมาสุด กล่าวว่า เดินทางมาจาก ต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย ตั้งใจเดินทางมาเที่ยวชมงานอุ่นไอรักคลายความหนาว เนื่องจากอุ่นไอรัก ครั้งที่ 1 เดินทางมาไม่ทัน สำหรับครั้งนี้ก็รู้สึกประทับใจมาก ได้มีโอกาสใส่ชุดไทยเก็บภาพเป็นที่ระลึก และประทับใจดอกไม้สวยมาก

ขณะที่ น.ส.มีนา สุทธิสาร ครูโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ กรุงเทพฯ กว่าวว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับเพื่อนๆ โดยทุกคนใส่ชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 มาเที่ยวชมงาน รู้สึกประทับใจบรรยากาศภายในงาน ทั้งดอกไม้ที่นำมาตกแต่ง และการจำลองประวัติศาสตร์ที่สำคัญเกี่ยวกับสายน้ำ และอากาสก็ไม่ร้อน ก็อยากให้จัดงานแบบนี้ทุกปีในช่วงเวลาแบบนี้ จะได้ใส่ชุดไทยมาเรียนรู้รากหญ้าของคนไทยสมัยก่อนว่ามีความเป็ยอย่าอย่างไร และอยากให้คนไทยมีชุดไทยที่ชอบใส่มาร่วมงานกันทุกคน