นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยได้รับการแจ้งเตือนจาก FAO เรื่องการระบาดของหนอนกระทู้ fall armyworm ซึ่งเป็นแมลงศัตรูพืชสำคัญของข้าวโพด เดิมพบระบาดในพื้นที่เขตร้อนและพื้นที่เขตกึ่งร้อนของทวีปอเมริกา และมีรายงานการระบาดครั้งแรกในภาคกลางและภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ช่วงต้นปี 2559 จากนั้นแพร่กระจายออกไป และเกิดระบาดในหลายประเทศเกือบทั่วทวีปแอฟริกา ส่วนในทวีปเอเชียมีรายงานพบการระบาดครั้งแรกปี 2561 โดยพบทำลายข้าวโพดในพื้นที่ Chikkaballapur, Karnataka
ของประเทศอินเดีย
กรมวิชาการเกษตรในฐานะทำหน้าที่เป็นองค์กรอารักขาพืชแห่งชาติตามอนุสัญญาว่าด้วยการอารักขาพืชระหว่างประเทศ มีหน้าที่ป้องกันมิให้ศัตรูพืชจากต่างประเทศเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศจนสร้างความเสียหายต่อพืชสำคัญทางเศรษฐกิจ ได้เฝ้าระวังหนอนกระทู้ fall armyworm ป้องกันไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศไทย โดยสำรวจพื้นที่ปลูกข้าวโพดในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 เป็นต้นมา โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ จ.ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย เนื่องจากรายงานล่าสุดของ FAO ระบุว่า หนอนกระทู้ระบาดที่ West Bengal ประเทศอินเดีย โดยอยู่ห่างจากชายแดนไทยด้านทิศตะวันตกประมาณ 1,200 กิโลเมตร ซึ่งผลสำรวจเพื่อเฝ้าระวังช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่พบหนอนกระทู้ fall armyworm เข้ามาระบาดในประเทศไทย
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า นอกจากการเฝ้าระวังโดยสำรวจพื้นที่ปลูกข้าวโพดแล้ว กรมยังสร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์ระบาดของหนอนกระทู้ fall armyworm ไปสู่เกษตรกร เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรและด่านตรวจพืชของกรม เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตื่นตัว ร่วมกันเฝ้าระวังไม่ให้หนอนกระทู้ fall armyworm เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย เนื่องจากเป็นแมลงศัตรูพืชที่บินได้ไกล ตัวเต็มวัยบินเฉลี่ยได้เฉลี่ย 100 กิโลเมตร/คืน ขยายพันธุ์ได้เร็วมาก 30-40 วัน/รุ่น และมีพืชอาหารมากกว่า 80 ชนิด ซึ่งนอกจากข้าวโพดแล้วยังมีพืชอาศัยอื่นที่เป็นแหล่งอาหาร เช่น ข้าว อ้อย ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี ฝ้าย ทานตะวัน ถั่วเหลือง หญ้า และพืชผักอีกหลายชนิด
ลักษณะการเข้าทำลายของหนอนกระทู้ fall armyworm เกิดขึ้นในระยะที่เป็นตัวหนอนเท่านั้น หนอนจะระบาดทำลายข้าวโพดตั้งแต่อายุประมาณ 7 วัน กระทั่งออกฝัก โดยกัดกินยอดและใบข้าวโพดแหว่งหรือกัดกินทั้งแผ่นใบ และจะพบตัวหนอนหลบซ่อนแสงอยู่ที่ยอดหรือโคนกาบใบข้าวโพด ความเสียหายที่เห็นได้ชัดคือ ระยะต้นอ่อนทำให้พืชตาย ระยะต้นแก่พืชจะไม่เจริญเติบโต ฝักลีบเล็กไม่สมบูรณ์ หากระบาดรุนแรงจะทำให้ผลผลิตเสียหาย 73%
สำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนกระทู้ fall armyworm กำจัดได้โดยใช้สารชีวภัณฑ์ตามคำแนะนำของ FAO เช่น ใช้แตนเบียนไข่ไตรโคแกรมมา (Trichogramma) แตนเบียนไข่เทเลโนมัส (Telenomus) แตนเบียนคีโนลัส (Chelonus) แมลงหางหนีบ เชื้อราบิวเวอเรีย (Beauveria bassiana) แบคทีเรียบาซิลลัสไอซา (Bt aizawai) หรือบาซิลลัสทูริงจิเอนซิส (Bt thuringiensis)
“อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกัน หากหนอนกระทู้ fall armyworm จะระบาดเข้ามาถึงมาประเทศไทยอาจต้องใช้เวลามากกว่าการระบาดในอินเดีย แต่เพื่อป้องกันไม่ให้หนอนกระทู้ fall armyworm ระบาดเข้ามา ขอให้เกษตรกรช่วยกันสำรวจพื้นที่ปลูกข้าวโพด รวมทั้งพืชอาศัยอื่น เช่น ข้าว อ้อย ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี ฝ้าย ทานตะวัน ถั่วเหลือง หญ้า และพืชผักอีกหลายชนิด หากพบพืชมีลักษณะอาการคล้ายการระบาดของหนอนกระทู้ fall armyworm ขอให้แจ้งสายด่วน หนอนกระทู้ fall armyworm โทร. 06-1415-2517 นอกจากนี้ ในปี 2562 กรมวิชาการเกษตร มีแผนเฝ้าระวังเข้มข้นโดยใช้วิธีติดกับดักฟีโรโมนหนอนกระทู้ fall armyworm ในพื้นที่เสี่ยงระบาดด้วย” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี