เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายโชติ เงินแท่ง นายก อบต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทย โดยพัดสูง 2-4 เมตร ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง และบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก โดยเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในบริเวณดังกล่าว ซ้ำซากมานานหลายปี
นายโชติเปิดเผยด้วยว่า ที่ผ่านมาคลื่นเกิดคลื่นลมแรงหลายครั้ง จนทาง อบต.ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยวางบิ๊กแบ๊กหรือถุงทรายขนาดใหญ่ กว่า 1,500 ถุง เพื่อเสริมความแข็งแรงของแนวชายฝั่ง และมีการปักไม้สน ท่อนละ 3 เมตร เป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร อย่างไรก็ดี สำหรับบิ๊กแบ๊กที่วางไว้นั้น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าได้ถูกคลื่นซัดพังเสียหายเป็นจำนวนมาก จนชาวบ้านยังคงตำหนิเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ไม่ยั่งยืนและไม่มีประสิทธิภาพ แต่ได้ชี้แจงว่ากรณีนี้ทาง อบต.ไม่มีงบประมาณเพียงพอ
นายก อบต.ทับสะแก เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้กรมเจ้าท่า ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างแนวกันคลื่น หรือเขื่อนหิน ความยาว 1 กิโลเมตร วงเงิน 62 ล้านบาท แต่ผู้รับเหมาก่อสร้างกลับดำเนินการล่าช้าจนสัญญาว่าจ้างสิ้นสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ทางสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดก็มีการติดตามตรวจสอบ จนต้องสั่งปรับวันละ 62,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี