กระทรวงยุติธรรม ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรม ภายใต้กรอบแนวคิด “ยุติธรรมใส่ใจ (Justice Care)”
19 ธ.ค.61 นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรม ได้จัดทำแนวทางการช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่อ ที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรม ภายใต้กรอบแนวคิด “ยุติธรรมใส่ใจ (Justice Care)” เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ และเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายและเหยื่อในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้ได้รับความช่วยเหลือด้วยความรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง โดยให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่อ ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวได้พัฒนามาจากหลักการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมตามมาตรฐานสากล (Victim Scheme) โดยมุ่งเน้น 4 ด้านหลัก ได้แก่ การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม การได้รับการชดใช้ความเสียหายโดยผู้กระทำผิด การได้รับการชดเชยความเสียหายโดยรัฐ และการให้ความช่วยเหลือเหยื่อด้านอื่นๆ
สำหรับผลการดำเนินงานในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. - 18 ธ.ค.61 ทั้งสิ้น 62 จังหวัด จำนวน 164 เรื่อง ได้แก่ 1.การขอรับความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา จำนวน 77 เรื่อง 2.การให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชน จำนวน 48 เรื่อง 3.การขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม จำนวน 7 เรื่อง 4.การขอรับความช่วยเหลือในการคุ้มครองพยาน จำนวน 1 เรื่อง และ 5.การขอรับความช่วยเหลืออื่นๆ จำนวน 32 เรื่อง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายกรณีชายฉกรรจ์ยกพวกรุมทำร้ายร่างกายในร้านขายของชำที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยมอบหมายให้ยุติธรรมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและนิติกร ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือนางสาวบุญรัตน์ กวางแก้ว ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของชำที่เกิดเหตุ โดยให้คำแนะนำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และหลักเกณฑ์การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 รวมทั้งแจ้งสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญาให้แก่ผู้เสียหายที่โดนทำร้ายร่างกาย ทั้ง 3 คน ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ให้ได้ทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า หากมีการข่มขู่ ให้ผู้ร้องไปแจ้งความดำเนินคดีได้ ประกอบกับหากจะต้องไปเบิกความเป็นพยานในศาล ซึ่งหากผู้ร้องเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย สามารถยื่นเรื่องขอคุ้มครองพยานในคดีได้
นอกจากนี้ ได้ให้ความช่วยเหลือนางสาวศินวพร หอมกลาง ผู้เสียหายชาวจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นคนไข้ที่ถูกตัดมดลูกและรังไข่ รวมทั้งตัดลำไส้ย้ายทางเดินการขับถ่าย พร้อมทั้งตัดไต 1 ข้าง โดยกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้นิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี เข้าร่วมพิจารณาภาพการฉีดฉายแสงไตของนางสาวศินวพรฯ ณ โรงพยาบาลอุดรธานี โดยจากการพิจารณาเห็นเพียงไตซีกขวาได้ชัดเจนและมีการผ่านของสารฉีดสี ส่วนไตซีกซ้ายเห็นเป็นสีดำ ไม่มีรูปร่างของไตเหมือนทางซีกขวา โดยนางสาวศินวพรฯ แจ้งว่าจะขอไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่นเพื่อพิสูจน์ว่ายังมีไตอยู่ครบหรือไม่ ทั้งนี้ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี ได้ให้ความช่วยเหลือนางสาวศินวพรฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ มารดาของคนไข้ได้เข้ามาขอรับความช่วยเหลือ ณ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี แล้ว 3 ครั้ง
หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือตกเป็นผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรม สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม ผ่านสายด่วนกระทรวงยุติธรรม 1111 กด 77 และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี