อธิบดีกรมการแพทย์แจงกรณีเสพยาบ้าเพื่อหวังผลคลอดบุตรง่ายในหญิงตั้งครรภ์นั้น อันตรายต่อตนเองและทารกในครรภ์ถึงขั้นเสียชีวิต แนะปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด
19 ธ.ค.61 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวออกมาทางสื่อต่างๆ ว่า มีหญิงตั้งครรภ์นับสิบรายเสพยาบ้า หรือสารกลุ่มแอมเฟตามีน โดยเชื่อว่าทำให้คลอดบุตรง่ายนั้น ขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวมิได้เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารเสพติดในกลุ่มสารกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีนใดๆ ไม่ได้ช่วยให้กระบวนการใดๆ ทั้งสิ้นของการคลอดบุตรง่ายขึ้นแต่อย่างใด
ในทางตรงกันข้าม มีเอกสารทางวิชาการหลายฉบับทั้งในและต่างประเทศได้ยืนยันว่า การที่มารดาเสพติดยากลุ่มแอฟตามีน หรือยาบ้า ในขณะตั้งครรภ์ ก่อให้เกิดอันตรายมากมากมายแก่บุตร ได้แก่ การแท้งบุตร เสียชีวิตในครรภ์หรือขณะคลอด ภาวะคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ ความผิดปกติของหัวใจ ภาวะเลือดออกในสมอง สมองตาย เซลประสาทถูกทำลาย ศีรษะเล็ก บุตรที่คลอดจากมารดาที่ติดยาบ้าจะมีอาการติดยาบ้าเช่นเดียวกับมารดา ได้แก่ มีปัญหาภาวะกดการหายใจ ร้องไห้ไม่หยุด กระวนกระวาย ไม่ดื่มนมตามปกติ เสี้ยงดูยาก เมื่อเติบโตไปยังมีผลต่อความผิดปกติของสมาธิ ความจำและความผิดปกติทางด้านพฤติกรรมต่างๆ ตามมา
สำหรับมารดาเองที่เสพติดยาบ้า พบว่าประสบอันตรายหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะทำให้ภูมิต้านทานโรคลดลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ ขณะตั้งครรภ์มากกว่าคนทั่วไปแล้ว หลังคลอดบุตรยังพบภาวะตกเลือดรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิต มีหลายรายที่เกิดภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้าอีกด้วย
ด้าน นพ.สรายุทธ์ ชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดทุกตัวรวมทั้งบุหรี่และสุรา ล้วนก่อให้เกิดอันตรายและผลร้ายต่อบุตรและมารดาที่ตั้งครรภ์ทั้งสิ้น และจากข้อแนะนำของการประชุมขององค์การสหประชาติสมัยพิเศษว่าด้วยเรื่องยาและสารเสพติดในปี 2559 ที่ผ่านมา ได้แสดงความห่วงใยของการใช้ยาและสารเสพติดในกลุ่มเด็ก , สตรี และหญิงตั้งครรภ์ ไว้ว่าเป็นกลุ่มที่ควรให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ จึงอยากฝากไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ที่ดูแลกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เมื่อมารับบริการทางการแพทย์ว่ามีการใช้ยาหรือสารเสพติดหรือไม่ เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าวอย่างทันท่วงที และรอดพ้นอันตรายจากผลกระทบทางสุขภาพจากการใช้ยาและสารเสพติดได้ในที่สุด โดยสถานพยาบาลใดมีข้อคำถามหรือต้องการได้ทราบข้อมูล แนวทางการให้ความช่วยเหลือเมื่อพบผู้ป่วยที่ดูแลอยู่ใช้ยาและสารเสพติดดังกล่าว สามารถติดต่อมาได้ที่หมายเลข 02-5310080-8 แฟกซ์ 02-5310085 หรือ สายด่วน 1165 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ อธิบดีกรมการแพท ย์ได้กำชับ นพ.ชาญชัย ธงพานิช รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น เพื่อลงพื้นที่ติดตามและให้ความช่วยเหลือมารดาทั้งสิบรายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี